เทคนิคทางการตลาดออนไลน์ ทำได้ง่าย ๆ บนเพจเฟซบุ๊ก

เทคนิคทางการตลาดออนไลน์ ทำได้ง่าย ๆ บนเพจเฟซบุ๊ก

การเปิดแฟนเพจบนเฟซบุ๊กนับเป็นอีกช่องทางการขายที่น่าสนใจเป็นอย่างมากสำหรับทุกธุรกิจที่ต้องการจับตลาดออนไลน์ เพราะสามารถทำได้ง่าย ไม่ซับซ้อนยุ่งยากถ้าเทียบกับการทำเว็บ นอกจากนั้นยังสามารถเปิดได้โดยไม่มีค่าใช้จ่าย ร้านค้าจะมีอิสระในการปรับแต่งเพจอย่างเต็มที่ แถมยังติดต่อกับลูกค้าได้ไวด้วยช่องแชทที่มีให้ในเพจ แต่การจะทำเพจให้ปัง มียอดเข้าชม ยอดการมีส่วนร่วมสูง จำเป็นต้องใช้เทคนิคหลายอย่างมาช่วย ซึ่งสามารถทำตามได้ง่าย ๆ ดังนี้

  1. โพสต์คอนเทนต์ที่น่าสนใจในเวลาที่เหมาะ

การสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพต้องมีทั้งความน่าสนใจ ให้ประโยชน์ และจริงใจต่อลูกค้า นอกจากนั้นยังควรมีการออกแบบภาพหรืออินโฟกราฟิกที่สวยงามและสอดคล้องกับเนื้อหาเพื่อให้โพสต์มีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น อีกเคล็ดลับสำคัญคือต้องทำการศึกษาด้วยว่ากลุ่มลูกค้าของตนเองมักจะออนไลน์ในเฟซบุ๊กในช่วงเวลาไหน แล้วเลือกโพสต์เนื้อหาใหม่ ๆ ในช่วงเวลานั้น สิ่งนี้เป็นเคล็ดลับสำคัญที่ทำให้เพจประสบความสำเร็จ

  1. ใส่ลิงค์ของเว็บไซต์เพื่อเพิ่ม Traffic

หากร้านของคุณมีเว็บไซต์ที่ใช้ในการขายสินค้าออนไลน์ด้วย ตอนโพสต์สิ่งต่าง ๆ บนแฟนเพจ อย่าลืมแปะลิงค์ของเว็บลงไปในหน้าเพจด้วย เมื่อลูกค้ามีความสนใจในสิ่งที่เราต้องการขาย ลิงค์ที่แปะไว้จะช่วยเพิ่มช่องทางการหาข้อมูลให้กับพวกเขา นอกจากนั้นยังช่วยในการเพิ่มการเข้าชมเว็บ เพิ่ม Traffic ให้กับเว็บได้เป็นอย่างดี

  1. มีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนทางออนไลน์

บางครั้งลูกค้าที่เคยซื้อสินค้าไปแล้วอาจจะมารีวิวให้กับเรา หรือเมื่อพวกเขาเห็นโพสต์ที่มีความเชื่อมโยงกับตนเองอาจจะเข้ามาคอมเมนต์ หรือพูดคุยทางหน้าเฟซบุ๊กเพจ สิ่งที่ธุรกิจต้องทำคือต้องตอบ กดไลค์ และมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าเหล่านั้นให้มากที่สุด เพราะจะทำให้ภาพลักษณ์ของแบรนด์ดูเข้าถึงง่าย และยังแสดงให้เห็นถึงความใส่ใจลูกค้าด้วย

  1. ใช้ #แฮชแท็ก (Hashtag) เพื่อเพิ่มยอดชม

#แฮชแท็ก เปรียบเหมือนคีย์เวิร์ดที่ผู้ใช้งานใช้ในการค้นหาสิ่งที่สนใจในโซเชียลมีเดีย ดังนั้นถ้าเจ้าของเพจสร้างคอนเทนต์อะไร แล้วติดแฮชแท็กที่มีความเกี่ยวข้องกับเนื้อหา จะทำให้ลูกค้ากลุ่มเป้าหมายมีโอกาสเห็นโพสต์นั้นเพิ่มมากขึ้นหลายเท่าตัว เคล็ดลับในการติดแฮชแท็กคือต้องมีความกระชับ และควรเลือกใช้แฮชแท็กที่ได้รับความนิยม แต่ต้องเกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่โพสต์

  1. เพิ่มกิจกรรมหรือโปรโมชั่นเพื่อดึงดูดลูกค้า

การมีกิจกรรมหรือโปรโมชั่นเพื่อให้ลูกค้ามีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้นเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์ธุรกิจได้เป็นอย่างดี นอกจากนั้นโปรโมชั่นยังสามารถใช้ในการดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่เข้ามา และอาจจะเพิ่มยอดการติดตามร้านให้สูงขึ้นได้อีกด้วย โดยอาจจะยึดช่วงเทศกาล ลองจัดกิจกรรมดี ๆ เพื่อสร้างฐานลูกค้าให้มั่นคง

หลังจากนี้ทุกคนคงจะสามารถใช้เพจเฟซบุ๊กในการทำการตลาดออนไลน์ได้หลากหลายมากขึ้น แล้วจะเห็นการพัฒนาของแบรนด์ได้อย่างชัดเจนมากขึ้นแน่นอน ไม่แน่ว่าสิ่งนี้อาจจะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดของแบรนด์เลยทีเดียว ส่วนธุรกิจที่ยังไม่เคยทำเพจเฟซบุ๊ก อย่ามองข้ามการตลาดช่องทางนี้ไปโดยเด็ดขาด เพราะเป็นอีกวิธีการที่ส่งผลมากต่อการสร้างแบรนด์

ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ ให้ธุรกิจปัง

ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ ให้ธุรกิจปัง

การใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ของคนรุ่นใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้สื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายช่องทางบนทุกพื้นที่ของโลก จึงนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เลยทีเดียว ดังนั้นธุรกิจทั้งหลายต้องมีการปรับตัวและหันมาใช้กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์มากขึ้น ว่าแต่มีช่องทางออนไลน์ไหนบ้างที่สามารถใช้ในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ วันนี้จะพาไปดู 6 ช่องทางการตลาดออนไลน์พื้นฐานที่น่าสนใจกัน

  1. การทำ SEO (Search Engine Optimization)

วิธีนี้เป็นการตลาดดิจิทัลที่ทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของเราติดอันดับต้น ๆ ในการค้นหา Keyword ต่าง ๆ บน Google วิธีนี้เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีเนื้อหาและคุณภาพสอดคล้องกับเกณฑ์ในการให้คะแนนเว็บไซต์ รวมทั้งการสร้างลิงค์ที่มีคุณภาพมาสู่เว็บไซต์ธุรกิจ วิธีการนี้จะช่วยเพื่อเพิ่มยอดผู้ชมและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการนั่นเอง ถ้าไม่เห็นภาพสามารถดูตัวอย่างจากเว็บบ้านผลบอลได้ที่ติด Keyword หน้าแรก Google แทบทุกการค้นหาเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอล

  1. ใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ (Social Media Marketing)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อต่างใช้โซเชียลมีเดียหลายช่องทางในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ Facebook การอัปโหลดภาพลงบน Instagram หรือการลงวิดีโอบน TikTok การใช้สื่อเหล่านี้ในการประชาสัมพันธ์จึงเป็นประโยชน์กับธุรกิจอย่างมาก ตัวแบรนด์จึงควรสร้างโซเชียลเหล่านี้เพื่อโปรโมทธุรกิจของตนเองเช่นกัน

  1. ขายสินค้าหรือบริการผ่านเหล่าคนดัง (Influencer Marketing)

อินฟลูเอนเซอร์เป็นกลุ่มคนที่มีผู้ติดตามมากกว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั่วไป ดังนั้นการจ้างกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าเป็นอีกทางเลือกในการเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก โดยแบรนด์ต้องมีการเลือกคนดังที่มีสไตล์สอดคล้องกับแบรนด์ มีผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และช่วยสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้ดูดีและน่าเชื่อถือ

  1. ทำธุรกิจให้ปังผ่านทางอีเมล (Email Marketing)

อีเมลเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารที่เป็นพื้นฐานที่สามารถส่งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลต่าง ๆ โดยการแนบไฟล์หรือลิงค์ ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายเป็นจำนวนมากนิยมเช็คอีเมลของตัวเองทุกวัน การส่งอีเมลเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจจึงเป็นโอกาสในการทำการตลาดออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม

  1. การวางแบนเนอร์บนเว็บไซต์ (Banner Marketing)

การวางภาพโฆษณาเป็นแบนเนอร์บนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเป็นอีกช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยต้องเลือกเว็บไซต์ในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ เช่น การวางแบนเนอร์โฆษณาประกันเดินทางบนเว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว จะเห็นว่าลูกค้าของบริษัทท่องเที่ยวจะมีโอกาสสนใจประกันเดินทางเป็นจำนวนมาก วิธีนี้จึงเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ตรงจุดอย่างมาก

  1. ทำคอนเทนต์ให้ปัง (Content Marketing)

การทำคอนเทนต์ทางออนไลน์เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ธุรกิจผ่านตัวอักษร รูปภาพหรือวิดีโอ เพื่อให้ผู้คนรู้จักสินค้าของเรามากขึ้น โดยคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นต้องมีความน่าสนใจ ดึงดูดใจ จนนำไปสู่การซื้อสินค้าหรือบริการในที่สุด นอกจากนั้นการทำคอนเทนต์ให้ทันสมัย อัปโหลดในเวลาที่ถูกที่ควรล้วนเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่เจ้าของกิจการทุกคนควรรีบเข้าไปคว้าโอกาสในการขาย นับเป็นเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าที่หลากหลายและตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันบนโลกธุรกิจของตัวเอง และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งและน่าสนใจ เจ้าของธุรกิจท่านไหน ยังไม่เริ่มทำการตลาดบนช่องทางเหล่านี้สามารถเริ่มต้นลงมือทำได้ในทันที แล้วธุรกิจของคุณจะก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน

วิธีทำการตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สำหรับธุรกิจ sme

วิธีทำการตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สำหรับธุรกิจ sme

SME เป็นธุรกิจขนาดย่อมจึงมีข้อจำกัดในเรื่องของงบประมาณในการทำการตลาด มือใหม่หลายคนที่เพิ่งเริ่มต้นทำธุรกิจจึงเข้าใจว่าตัวเองมีข้อจำกัดในการทำการตลาดรวมถึงโปรโมทโฆษณาผ่านออนไลน์ซึ่งที่จริงแล้วคุณสามารถวางแผนและเลือกใช้ช่องทางการทำการตลาดที่ช่วยลดค่าใช้จ่ายและเห็นผลทำแล้วเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายสร้างโอกาสทางการขายและปิดการขายได้ในอนาคต ดังนั้นวันนี้ใครที่ทำธุรกิจ sme จึงไม่ต้องกังวลเพราะหากคุณรู้วิธีในการทำการตลาดออนไลน์ก็จะช่วยให้มีช่องทางในการโปรโมทแบรนด์รวมถึงสินค้าบริการให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมากยิ่งขึ้น 4 วิธีทำการตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย สำหรับธุรกิจ sme

เริ่มจากการวางแผนเลือกใช้ช่องทางในการโปรโมท ซึ่งวันนี้การทำการตลาดออนไลน์มีช่องทางการโปรโมทโฆษณาหลากหลายอย่างเช่น facebook เว็บไซต์การสร้างบล็อกเหล่านี้เป็นตัวช่วยในการโปรโมทสินค้าและบริการของคุณให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อได้โดยที่ไม่ต้องอาศัยหน้าร้านเพราะเป็นรูปแบบของการทำสื่อโฆษณาผ่านระบบออนไลน์

ทำการตลาดออนไลน์อย่างสม่ำเสมอเพื่อตอกย้ำและทำให้กลุ่มเป้าหมายทราบว่าคุณกำลังขายสินค้าหรือบริการใด มาจากนั้นแล้วจะต้องศึกษากลุ่มเป้าหมายควบคู่ไปด้วยเพื่อเรียนรู้พฤติกรรมการซื้อของลูกค้าจากนั้นใช้การตลาดออนไลน์โฆษณาให้เข้าถึงเช่นธุรกิจเสื้อผ้าที่คุณสามารถโปรโมทโฆษณาผ่าน facebook ตอกย้ำให้สินค้าของคุณเข้าถึงเป้าหมายด้วยการทำโฆษณาในรูปแบบของวิดีโอหรือภาพนิ่งเพื่อนำเสนอสินค้าเหล่านั้น

รีวิวสินค้าผ่านสื่อโซเชียลต่างๆแนะนำSME ที่อยากทำการตลาดออนไลน์ให้เข้าถึงกลุ่มผู้ซื้อและเพิ่มโอกาสในการปิดยอดขายด้วยการทำรีวิวโดยหากสามารถให้ influencer หรือผู้ที่มีอิทธิพลบนโลกออนไลน์ได้รับการติดตามจากผู้คนมารีวิวสินค้าของคุณก็จะช่วยเพิ่มโอกาสสินค้าของถึงคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้อย่างรวดเร็วทันใจ

ทำการตลาดออนไลน์บนเว็บไซต์อยู่เสมอไม่ว่าจะมีแพลตฟอร์มใดก็ตามที่ช่วยให้คุณทำการตลาดได้ง่ายขึ้นแต่เว็บไซต์นับว่าเป็นพื้นฐานที่ขาดไม่ได้เพราะมีส่วนช่วยในการทำโฆษณาและสร้างความน่าเชื่อถือให้กับแบรนด์ดังนั้นคุณจะต้องอัปเดตอยู่เสมอไม่ว่าจะเป็นด้วย content ภาพหรือ content บทความ

เหล่านี้เป็นวิธีที่จะช่วยให้ธุรกิจของ sme ของคุณเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายได้ไวและมีประสิทธิภาพด้วยการทำการตลาดออนไลน์หากวันนี้คุณมีงบน้อยหรือกำลังวางแผนในการสร้างแรงให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายลองใช้วิธีเหล่านี้กันดูเพราะธุรกิจ sme ที่มีงบจำกัดในการทำการตลาดคุณสามารถใช้วิธีเหล่านี้เข้าช่วยได้และอย่าลืมวัดผลการทำการตลาดออนไลน์อยู่เสมอเพื่อนำมาวิเคราะห์และปรับปรุงแผนการตลาดต่อไป

เครื่องมือ การตลาดออนไลน์ ใช้เมื่อไร ยอดขายปังมาก

เครื่องมือ การตลาดออนไลน์ ใช้เมื่อไร ยอดขายปังมาก

เมื่อเทรนเปลี่ยนการตลาดก็ต้องเปลี่ยน โดยเฉพาะ การตลาดออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาใช้เกี่ยวกับการตลาดในปัจจุบันให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ เพราะหากตามไม่ทันก็อาจจะ Out ก็เป้นได้ โดยในวันนี้จะมาแนะนำ 5 เครื่อง สำหรับการตลาดออนไลน์ ถ้าหากคุณประสบความสำเร็จก็จะช่วยให้ยอดขายของคุณปังมากยิ่งขึ้น

SEO

การทำ SEO ไม่เพียงแต่ต้องทำเฉพาะเว็บไซต์เท่านั้น แต่สามารถที่จะทำผ่าน Youtube, Facebook, Tiktok ได้ ขึ้นอยู่กับคนทำ SEO ว่ามีความสามารถเพียงใดในการที่จะทำให้แอปพลิเคชันออนไลน์เหล่านั้น สามารถเข้าถึงและติดอันดับในการค้นหาของ Search Engine ได้

การยิง Ads

การยิง Ads อาจเป็นตัวเลือกในลำดับท้าย ๆ เพราะจะต้องใช้เงินลงทุน ซึ่งการยิง Ads เป็นการเร่งความสำเร็จให้เร็ว แต่อาจต้องใช้เงินทุนมหาศาล เพราะไม่เพียงแต่ยิง Ads ผ่านสื่อออนไลน์เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น แต่ต้องซื้อ Ads ผ่านหลาย ๆ แอปพลิเคชันด้วย จึงจะเห็นผลสำเร็จได้ไม่ยาก เช่น Google Ads, Facebook Ads, Tiktok Ads หรือแม้แต่การซื้อโฆษณาผ่าน Youtube ด้วย จึงเหมาะกับผู้ประกอบการที่มีทุนหนาและต้องการให้สินค้าติดตลาดได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

การสร้าง Content

การสร้าง Content เป็นหนึ่งในช่องทางที่สามารถประชาสัมพันธ์ให้คนได้รู้จักกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Content ที่มีสาระและความบันเทิง เพราะจะทำให้คนจดจำชื่อแบรนด์ได้ง่าย ซึ่งการทำ Content ก็จะแบ่งออกเป็น บทความ คลิปวีดีโอ รูปภาพหรือแคปชั่น ที่สามารถจะสื่อสารออกไปบนโลกออนไลน์ได้

E-mail และ SMS Marketing

การตลาดด้วยการโฆษณาผ่าน E-mail และ SMS ยังคงสามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน พร้อมทั้งยังแจ้งข้อมูล ข้าวสารและโปรโมชันให้ผู้รับได้เกิดแรงกระตุ้นในการเปิดหรือเข้าถึงลิงก์ข้อความที่ส่งไปในเมล์ได้ นอกจากนี้การทำการตลาดแบบนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อีกด้วย

Influencer

การเลือกใช้บริการของ Influencer เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถที่จะให้คนมองเห็นสินค้าได้ง่าย ช่วงแรกอาจจะเน้นไปที่การให้ Influencer เหล่านั้นได้ทดลองใช้สินค้าจริงเพื่อความน่าเชื่อถือและแสดงให้เห็นว่าคนที่เขาติดตามใช้สินค้าตัวนี้จริงและเห็นผลจริง จึงเกิดการใช้สินค้าตาม นับเป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้งานได้จริงและเหมาะมากในช่วงตลาดออนไลน์แบบนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 เครื่องมือสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ที่เชื่อได้เลยว่าหลายคนกำลังมองหาและต้องการเครื่องมือเหล่านี้อยู่ แต่บอกได้เลยว่าแม้จะมีเครื่องมือที่ดีอยู่ในมือ หากใช้งานไม่เป็นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น ควรศึกษาเครื่องมือให้เข้าใจและนำไปใช้ที่ละอย่าง ก่อนที่จะบันทึกผลตอบรับจากเครื่องมือในแต่ละแบบ เพราะไม่อย่างนั้น อาจไม่สามารถบอกได้เลยว่า สินค้าของคุณมาจากเครื่องมือใดมากที่สุด เพราะจะต้องนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อขยายผลในการทำการตลาดออนไลน์ต่อไปในอนาคต

เจาะ 3 เทรนด์การตลาดออนไลน์ 2022 ที่ผู้ประกอบการต้องรู้

เจาะ 3 เทรนด์การตลาดออนไลน์ 2022 ที่ผู้ประกอบการต้องรู้

พอขึ้นชื่อว่าเป็นเรื่องการตลาดในการทำธุรกิจออนไลน์ สิ่งที่ผู้ประกอบการยุคใหม่จะต้องให้ความสำคัญมากเป็นพิเศษ นั่นก็คือการทำความเข้าใจในกระแสหรือเทรนด์ของการตลาดที่ในแต่ละช่วงเวลาที่จะมีการเปลี่ยนแปลงไป มีการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา ซึ่งถ้าใครที่ตามเทรนด์ไม่ทันก็อาจต้องประสบปัญหาในการทำธุรกิจได้ อย่างนั้นเรามาส่องกันดีกว่าว่าเทรนด์การตลาดใหม่ปี 2022 นี้มีเทรนด์อะไรที่เป็นกระแสที่น่าสนใจบ้าง

1. การตลาดออนไลน์กับการเป็นช่องทางสำคัญ

ด้วยรูปแบบพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนแปลงไป ที่กลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่เริ่มที่จะหันมาเลือกซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ ผ่านช่องทางออนไลน์ที่สะดวกรวดเร็วกว่า ซึ่งเราจะเห็นแนวโน้มพฤติกรรมนี้ได้จากอัตราการเติบโตของธุรกิจออนไลน์ที่มีมูลค่าการตลาดสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ตรงนี้เองที่เป็นจุดสำคัญที่บอกกับเราว่า ไม่ว่าธุรกิจของเราจะทำกิจการแบบไหน ขายสินค้าหรือบริการอะไร ก็ควรจะต้องมีการปรับตัวเองให้เข้าไปอยู่ในตลาดออนไลน์ได้แล้ว จงเตรียมความพร้อมทำตลาดออนไลน์เป็นช่องทางหลักเพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงด้านพฤติกรรม ก่อนที่จะเสียลูกค้าให้กับคู่แข่งไปเพราะมัวแต่นิ่งเฉย

2. ของที่ขายดีคือของที่ตอบโจทย์ทั้งฟังก์ชันและความชื่นชอบ

บอกลาคัมภีร์การตลาดแบบเดิมไปได้เลย เพราะเทรนด์การตลาดออนไลน์ 2022 มีแนวโน้มที่จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับเหตุผลในการตัดสินใจที่จะจ่ายเงินให้กับธุรกิจของลูกค้า จากเมื่อก่อนที่หลักการตลาดบอกว่าลูกค้าจะเลือกซื้อสินค้าจากฟังก์ชันการใช้งาน ที่ตอบโจทย์ความต้องการหรือการเข้ามาช่วยแก้ปัญหาให้กับตัวลูกค้าได้ หรือเป็นสินค้าที่ตอบโจทย์ความต้องการด้านอารมณ์ แต่ด้วยรูปแบบธุรกิจที่เข้าสู่การแข่งขันในตลาดออนไลน์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้น ที่มีผู้แข่งขันจำนวนมากและดุเดือดขึ้น ผลก็คือการเปลี่ยนแปลงของเหตุผลในการตัดสินใจซื้อของลูกค้า ที่ตอนนี้จะเปลี่ยนไปเป็นว่า สินค้าจะต้องสามารถตอบโจทย์ได้ทั้งเรื่องของฟังก์ชันและอารมณ์

3. เปลี่ยนจากการครอบครองพื้นที่เป็นการครอบครองสื่อ

ถ้าเป็นรูปแบบการทำธุรกิจออฟไลน์ ผู้ชนะในการแข่งขันนี้ก็คือผู้ที่ครอบครองพื้นที่ทำเลทองในการค้าขาย แต่ด้วยเทรนด์การตลาดที่เปลี่ยนไป ภาคธุรกิจมุ่งเข้าสู่การแข่งขันในโลกออนไลน์อย่างสมบูรณ์แบบ สิ่งที่เป็นตัวตัดสินแพ้ชนะของธุรกิจจะไม่ได้อยู่ที่การถือครองที่ดินทำเลทองอีกต่อไป แต่จะย้ายไปอยู่ที่การครอบครองพื้นที่สื่อ โดยเฉพาะ Social Media Platform ต่าง ๆ ที่ทุกธุรกิจต้องพยายามสร้างตัวตนบนโลกออนไลน์ หาพาร์ทเนอร์ที่จะช่วยให้ธุรกิจได้ไปปรากฏอยู่ที่หน้าจอสมาร์ทโฟนของลูกค้าให้ได้มากที่สุด

ด้วยความเข้าในในเทรนด์ความนิยมของการตลาดออนไลน์ยุคใหม่ จะช่วยให้ผู้ประกอบธุรกิจสามารถที่จะวางแผนกลยุทธ์การดำเนินการได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและก้าวสู่การเป็นผู้นำเทรนด์ที่เหนือกว่าคู่แข่งในทุก ๆ ด้าน

กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เพิ่มลูกค้า สร้างยอดขายให้ปังกว่า

กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ เพิ่มลูกค้า สร้างยอดขายให้ปังกว่า

ในการทำธุรกิจและการตลาดออนไลน์ประเด็นสำคัญที่ส่งผลต่อชัยชนะในตลาดที่มีการแข่งขันสูงก็คือการรู้จักวางและใช้กลยุทธ์ทางการตลาดอย่างชาญฉลาด โดยเฉพาะกับมุมของการเพิ่มลูกค้าเพื่อสร้างรายได้ของธุรกิจที่จะส่งผลต่อทั้งยอดขายและกำไร ซึ่งผู้ประกอบการที่ทำธุรกิจออนไลน์จำเป็นที่จะต้องมีความเข้าใจถึงหลักสำคัญสองข้อ นั่นก็คือการสร้างการรับรู้และปัจจัยสนับสนุนการตัดสินใจซื้อของลูกค้า

สร้างการรับรู้ในแบรนด์ช่วยเพิ่มลูกค้า

  • การเข้าถึงข้อมูลที่รวดเร็ว การสร้างให้เกิด Awareness ในแบรนด์สินค้าหรือธุรกิจของเรานั้นคือเรื่องสำคัญมากที่สุดอันดับต้น ๆ ของการทำการตลาดออนไลน์เลยก็ว่าได้ เริ่มตั้งแต่การทำให้ลูกค้า (หรือผู้ที่มีแนวโน้มจะเป็นลูกค้าของเรา) สามารถค้นหาข้อมูลและเจอกับสินค้าของเราได้อย่างสะดวก รวดเร็ว ซึ่งตรงนี้หากธุรกิจไหนสามารถทำได้ก่อนก็มีโอกาสที่จะได้ลูกค้าไปก่อนนั่นเอง เราจึงควรใส่ใจและจริงจังกับการสร้างการรับรู้ในธุรกิจให้มากที่สุด
  • บริการที่ใช่ตอบโจทย์ความต้องการ หลังจากที่ลูกค้าได้รับรู้ถึงการมีอยู่ของแบรนด์แล้ว ประเด็นต่อมาก็คือเรื่องของการให้บริการ กับช่องทางออนไลน์ที่เน้นเรื่องความรวดเร็ว และการใช้งานที่ง่าย ไม่ซับซ้อน ทั้งในการเลือกซื้อสินค้า การจ่ายเงิน และการจัดส่ง ทุกขั้นตอนในการให้บริการต้องง่ายและเร็วเข้าไว้ ถ้าทำตรงนี้ได้ไม่ดีเรามีโอกาสที่จะเสียลูกค้าได้ง่ายมาก ๆ จากปัญหาที่ว่ามานี้

ใส่ปัจจัยที่ช่วยให้ซื้อได้ง่ายขึ้น

  • คุณภาพของสินค้าและบริการ สินค้าต้องดีคนถึงจะซื้อซ้ำอีก นี่คือหัวใจสำคัญของการทำให้ลูกค้าเลือกที่จะซื้อสินค้าของเราและกลายมาเป็นลูกค้าประจำ ของที่เอามาขายบนตลาดออนไลน์จำเป็นที่จะต้องเป็นของที่มีคุณภาพ และเพื่อความวางใจที่มากกว่า ธุรกิจควรมีการประกันคุณภาพสินค้าด้วย
  • รีวิวคือสิ่งที่ไม่อาจมองข้าม การตลาดออนไลน์สามารถเอาชนะกันได้ด้วยรีวิว เพราะหลายครั้งลูกค้าจะตัดสินใจซื้อของที่มีรีวิวมากกว่าของดีแต่ไม่มีคนมารีวิวให้ ด้วยเพราะว่าลูกค้าอยากมั่นใจจริง ๆ ว่าสินค้าที่ซื้อไปนั้นจะเป็นของที่ใช่และตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาได้จริงอย่างที่ธุรกิจบอกเอาไว้ในโฆษณา

เพราะการแข่งขันที่สูงเราจึงต้องเอาใจใส่ลูกค้าให้มากกว่า ยิ่งกับการสร้างการรับรู้ให้ลูกค้าได้รู้จักและสนใจที่จะมาเป็นผู้ใช้สินค้าหรือบริการของเรา ถ้าเอาชนะคู่แข่งในสองประเด็นสำคัญนี้ได้ เส้นทางความสำเร็จในอนาคตของการทำการตลาดออนไลน์ของธุรกิจก็อยู่ไม่ไกลแล้ว

การตลาดออนไลน์ ง่าย ๆ แค่รู้พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่

การตลาดออนไลน์ ง่าย ๆ ใครก็ทำได้

สำหรับใครที่เป็นเจ้าของธุรกิจและต้องการทำการตลาดออนไลน์ แต่ยังไม่รู้เริ่มอย่างไร วันนี้เราจะมาแนะนำและให้ความรู้เกี่ยวกับวิธีทำการตลาดออนไลน์ ง่าย ๆ ใครก็ทำได้ เพียงแค่รู้พฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ที่เปลี่ยนไป แม้ว่าร้านค้าแบบออฟไลน์จะยังสามารถขายของได้ดีอยู่ แต่การได้ทำการตลาดออนไลน์ยิ่งเหมือนเสือติดปีกให้กับธุรกิจของคุณ

การซื้อสินค้าในยุคก่อนออนไลน์

ซึ่งในอดีตหากใครที่ต้องการหาซื้อสินค้าต่างก็ต้องเดินทางไปหาสินค้าตามคำบอกเล่าหรือแหล่งของสินค้านั้น ๆ เมื่อพบสินค้าตามที่ต้องการจึงจะเกิดการต่อรองราคา สอบถามข้อมูล คำแนะนำสินค้า หากถูกใจก็สามารถซื้อสินค้าชิ้นนั้นได้ในทันที แต่ถ้าไม่ถูกใจ บริการไม่ดีก็อาจจะไม่ซื้อ แล้วเดินจากไป หาซื้อร้านอื่น ๆ ซึ่งการขายสินค้าในแบบเดิม ๆ ทำให้ผู้ซื้อเสียเวลาในการเดินทางมาก พร้อมกับไม่สามารถเลือกสินค้าชนิดเดียวกันได้ หากมีการผูกขาดเฉพาะแค่ร้านนั้นร้านเดียว

การซื้อสินค้าในแบบออนไลน์

เมื่อมีระบบออนไลน์ให้ใช้งาน ผู้ซื้อจะหาข้อมูลก่อนเสมอ ไม่ว่าสินค้าชนิดนั้นจะมีแบรนด์ที่ดีขนาดไหนก็ตาม ซึ่งจะแตกต่างจากยุคออฟไลน์มาก เนื่องจากไม่สามารถหาข้อมูลก่อนได้ จนกว่าจะเดินทางไปถึงหน้าร้าน แต่ในปัจจุบันเพียงใช่สมาร์ทโฟน ถู ๆ หน้าจอ เพียงเท่านี้ก็สามารถได้ข้อมูลของสินค้าตามที่ต้องการ สามารถที่จะเปรียบราคาในแต่ละรุ่นแต่ละยี่ห้อได้

เมื่อคุณรู้ถึงพฤติกรรมของคนที่ซื้อของในปัจจุบันได้ แสดงว่าคุณก็จะรู้ถึง Key ในการทำการตลาดออนไลน์ได้แล้ว เพราะคนในปัจจุบันมากกว่า 90% มักจะค้นหาข้อมูลผ่านทางออนไลน์เสมอ จากนั้นเมื่อค้นหาข้อมูลจนเป็นที่ถูกใจ ก็จะตัดสินใจเดินทางเพื่อไปซื้อสินค้าหรือสั่งซื้อผ่านทางระบบออนไลน์นั่นเอง ซึ่งส่วนใหญ่จะตัดสินใจซื้อตั้งแต่เช็กข้อมูลเป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ติดที่ว่าจะต้องเห็นหรือได้สัมผัสกับของจริง ไม่ว่าจะเป็นสินค้าและบริการประเภทใดก็สามารถที่จะทำการตลาดออนไลน์ได้ เช่น รถยนต์, นาฬิกา, ร้านทำเล็บ, ร้านเสริมสวย, ที่พัก, รีสอร์ท, โรงแรม, ร้านอาหาร, ร้านทำฟัน, แก้ว, ทีวี, แอร์ ฯลฯ

โควิด-19 ตัวเร่งที่ทำให้พฤติกรรมคนเปลี่ยนไป

ก่อนหน้าที่จะเกิดการระบาดของโควิด-19 ร้านค้าในแบบออฟไลน์อาจจะยังพอขายสินค้าได้อยู่บ้าง แต่เมื่อเกิดการระบาดของโควิด-19 เป็นเหมือนการเร่งให้พฤติกรรมของผู้คนเปลี่ยนไปเพราะความจำเป็น หันมาใช้บริการออนไลน์มากยิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ที่เพิ่มมากขึ้น, การใช้บริการรับ-ส่งอาหาร-เครื่องดื่ม ร้านสะดวกซื้อหันมาเปิดให้บริการผ่านแอปพลิเคชันพร้อมส่งสินค้าให้ฟรี ส่งผลให้ร้านค้าในรูปแบบออฟไลน์เดิม ๆ ต่างขาดรายได้จนถึงขั้นต้องปิดกิจการลง แต่คนที่ทำการตลอดออนไลน์กลับขายดีเป็นเทน้ำเทท่า แม้ว่าจะไม่มีหน้าร้านแบบออฟไลน์ก็ตาม เห็นหรือไม่ว่าการตลาดออนไลน์สำคัญแค่ไหนกับการทำธุรกิจในปัจจุบัน นั่นเพราะพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไปนั่นเอง

เชื่อว่าหลายคนคงสัมผัสได้ถึงพฤติกรรมในการซื้อสินค้าของคนในปัจจุบันว่ามีการเปลี่ยนแปลงไปมากแค่ไหน และคาดว่าหลังจากที่สิ้นสุดการระบาดของโควิด-19 พฤติกรรมการซื้อสินค้าออนไลน์ก็จะยังคงอยู่ จนกว่าจะมีเทคโนโลยีใหม่ ๆ หรืออะไรก็ตามที่สามารถเปลี่ยนพฤติกรรมของคนส่วนใหญ่ได้ ดังนั้น เพียงแค่คุณมีตัวตนบนโลกออนไลน์ นำเสนอสินค้าและให้ข้อมูลที่เป็นจริง จำหน่ายสินค้าที่มีคุณภาพ เชื่อได้เลยว่าจะสามารถสร้างยอดขายให้กับธุรกิจของคุณได้อย่างแน่นอน

5 ข้อคนทำเว็บต้องรู้ ให้เว็บถูกใจคนดู

5 ข้อคนทำเว็บต้องรู้ ให้เว็บถูกใจคนดู

ในยุคที่การสื่อสารไร้พรมแดนและทุกคนสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ง่าย คงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเว็บไซต์มีส่วนสำคัญต่อธุรกิจบนโลกออนไลน์เป็นอย่างมาก เพราะไม่เพียงแต่ทำหน้าที่ในการประชาสัมพันธ์ แนะนำให้ลูกค้าและคนทั่วไปได้รู้จักตัวตนของธุรกิจบนโลกออนไลน์ ยังทำหน้าที่ในการเสริมสร้างศักยภาพทางธุรกิจให้แก่เจ้าของกิจการได้อีกด้วย แต่ คนทำเว็บ ต้องทำอย่างไรให้เว็บถูกใจคนดู ไปติดตามกัน

1.ออกแบบเว็บให้รองรับทุกหน้าจอ

ปัจจุบันมือถือได้รับการพัฒนาและมีความสามารถในการใช้งานอินเทอร์เน็ตมากขึ้น คนจึงนิยมใช้มือถือสมาร์ทโฟนและแทบเล็ตในการท่องเว็บมากขึ้น แถมพกพาสะดวก หากเว็บใดไม่ออกแบบให้รองรับการใช้งานกับอุปกรณ์ดังกล่าวแล้ว คงเป็นไปได้ยากที่จะดึงดูดคนเข้ามาเยี่ยมชมเว็บไซต์ได้และปัจจุบันมีแอปพลิเคชันมากมายที่ใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ให้รองรับการใช้งานของอุปกรณ์เหล่านี้ ไม่ใช่แต่ใช้ได้เฉพาะคอมพิวเตอร์เพียงอย่างเดียว

2.ยิ่งเร็ว ยิ่งดี

ไม่เพียงแต่เว็บไซต์ที่ต้องรองรับการใช้งานของอุปกรณ์ที่หลากหลายได้เท่านั้น แต่ต้องโหลดเร็วด้วย เพราะจะได้ช่วยผู้ที่เข้ามาเยี่ยมชมเกิดความประทับใจและเป็นการสร้างโอกาสในการสร้าง Traffic ที่ดี ให้สามารถติดอันดับของ Serach Engine อีกด้วย รู้หรือไม่ว่าเว็บไซต์ที่ดีควรมีหน้าในการโหลดไม่เกิน 4 วินาที เพราะหากนานกว่านั้น มีโอกาสที่ผู้ชมสไลด์หน้าจอหนีออกไปได้

3.ห้ามมีลิงก์เสีย

หากคุณได้มีโอกาสไปเยี่ยมชมเว็บไซต์แล้วปรากฏว่า รูปภาพที่ใช้แสดงขึ้น File not Found ซึ่งคงไม่ดีแน่โดยเฉพาะการที่เว็บไซต์มีการสอดแทรกลิงก์ต่าง ๆ เพื่อเชื่อมโยงไปหน้าเพจอื่น ๆ หรือรูปภาพในการแสดงสินค้า บอกได้เลยว่าคนดูจะรู้สึกเสียเวลา ดังนั้น ควรตรวจสอบการเชื่อมโยงทุกครั้งเมื่อมีการอัปเดทเว็บไซต์หรือข้อมูลอื่น ๆ ยิ่งถ้าเป็นการอัปเดตระบบหรือซอฟต์แวร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำเว็บ ยิ่งต้องระมัดระวัง ควรมีการจำลองผ่าน Server เสมือนเสียก่อน เพราะหากผิดพลาดมาจะได้แก้ไขก่อนอัปโหลดขึ้นเว็บจริง

4.อย่าทำ Pop up และโฆษณาที่เยอะเกินไป

คงไม่ดีแน่ถ้าเปิดเว็บไซต์ขึ้นมาแล้วต้องมาคอยปิด Pop Up อยู่ตลอดเวลา จริงอยู่ที่เทคนิคการ Pop Up เป็นหนึ่งในเทคนิคที่น่าสนใจ แต่เป็นเทคนิคที่ไม่ควรให้เกิด Pop Up ขึ้นถี่ ๆ หรือการมีโฆษณาอยู่เต็มหน้าเพจ โดยที่มีเนื้อหาอยู่เพียงนิดเดียว ดังนั้นควรใส่แต่พองาม ไม่เยอะเกินไปหรือเลือกใส่เฉพาะหน้าแรกหรือต้องการที่จะโชว์สินค้า เพราะการที่มี Pop Up และโฆษณาที่เยอะเกินไปก็จะทำให้ประสิทธิ์ภาพของการโหลดเว็บไซต์แย่ลง คนดูก็จะเกิดความรำคาญและไม่เข้าเยี่ยมชมเว็บไซต์อีกต่อไป

5.ใช้ Keyword ให้ตรงตามเป้าหมาย

Keyword เป็นส่วนสำคัญไม่แพ้ส่วนอื่น ๆ เพราะจะช่วยให้คนที่กำลังค้นหาข้อมูลผ่าน Search Engine ค้นหาเว็บไซต์ได้ง่ายขึ้น คนทำเว็บจะต้องเลือกใส่คีย์เวิร์ดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย จึงจะช่วยให้มีคนเข้าเว็บไซต์มากยิ่งขึ้น เพราะปัจจุบันนี้หากใครต้องการอะไร ส่วนใหญ่ก็จะใช้ Search Engine ในการค้นหา หากต้องการติดอันดับต้น ๆ ของหน้าค้นหา ก็ควรเลือกคีย์เวิร์ดให้ดีและทำเว็บให้สอดคล้องกับข้อกำหนดของ Search Engine เพียงเท่านี้ก็จะทำให้เว็บไซต์ของคุณติดอันดับหน้าค้นหาแล้ว

สำหรับ คนทำเว็บ ที่เป็นมือใหม่และต้องการสร้างเว็บไซต์ให้ดึงดูดผู้คนเข้าไปเยี่ยมชม ก็อย่าลืม 5 ข้อแนะนำที่กล่าวมาข้างต้น นอกจากนี้ยังมีรายละเอียดอื่น ๆ อีกมากที่ควรศึกษาและพัฒนาในการทำเว็บไซต์ต่อไป เพื่อสร้างยอดคนดูให้กับเว็บต่อไป

เขียนบทความ SEO เพื่อหาลูกค้าจาก Google

บทความ SEO

บทความ SEO ที่มีคุณภาพเป็นเรื่องที่ต้องเรียนรู้และฝึกฝนสม่ำเสมอ เพื่อให้ได้เนื้อหาบทความที่มีคุณภาพ ถูกใจคนอ่านและช่วยเพิ่มอันดับการสืบค้นทาง Google ได้ ถ้าจะเขียนบทความ SEO ควรรู้หลักอะไรบ้าง

เลือกหัวข้อดีมีชัยไปกว่าครึ่ง

การเลือกหัวข้อที่สั้นกระชับและสื่อสารถึงเนื้อหาในบทความเป็นสิ่งสำคัญ เพราะคนอ่านจะตัดสินใจคลิกเข้ามาอ่านข้อมูลในเว็บไซต์ของคุณหรือไม่ ก็มักเลือกจากหัวข้อเป็นอันดับแรก เหมือนเป็นความประทับใจแรกพบนั่นเอง คุณจึงต้องเรียนรู้วิธีการหยิบประเด็นขึ้นมาตั้งเป็นหัวข้อที่ชัดเจน และที่สำคัญ คือ เนื้อหาและหัวข้อต้องเป็นเรื่องเดียวกัน มิฉะนั้นก็จะกลายเป็นกระทู้ปั่นไปได้ หรือกรณีที่ทำเป็นเว็บไซต์ ผลบอลภาษาไทย ซึ่งไม่เน้นคนเข้าอ่านเนื้อหาแต่ดูตารางบอลเป็นหลัก อย่างน้อยก็ควรมีการโปรยเนื้อหาสัก 1-2 ย่อหน้าในพื้นที่ไม่เกะกะตาผู้ใช้ เพื่อให้บอท Google เข้ามาเก็บข้อมูลและทำความเข้าใจได้ง่ายขึ้น

เลือกคีย์เวิร์ดที่เหมาะสม

คีย์เวิร์ด SEO ที่ดี คือ คำหรือวลีที่คนนิยมพิมพ์ค้นหาใน google search ซึ่งจะเป็นภาษาไทยหรือภาษาอังกฤษก็ได้ วิธีการที่ง่ายที่สุดสำหรับมือใหม่ในการหา keyword SEO ก็คือ ลองพิมพ์ด้วยคำที่เกี่ยวกับสินค้าและบริการของคุณในช่อง Google search จะพบว่ามีตัวอย่างคำขึ้นมาโดยอัตโนมัติ นั่นคือ คำที่ผู้คนนิยมใช้ในการค้นหานั่นเอง ให้ใช้คำเหล่านี้มาเขียนเป็นคำหลักในบทความได้เลย หรือจะดูจากตัวช่วยฟรี เช่น google trends ก็ได้เช่นกัน

วางโครงสร้างให้เหมาะสม

ในบทความหนึ่ง ๆ ควรจะมีสามย่อหน้าเป็นอย่างน้อย มีทั้งส่วนบทนำ เนื้อหา และสรุป หากเนื้อหายาวก็ควรแบ่งเป็นข้อ ๆ 1. 2. 3. ด้วย ไม่ควรที่จะเขียนวนไปมาจนผู้อ่านจับต้นชนปลายไม่ถูก การเขียนที่ดีจึงต้องผ่านการฝึกฝนเรียนรู้มายาวนาน

ใส่ลิงก์ในเนื้อหาบทความ

การใส่ลิงก์ที่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาบทความแทรกในส่วนต่าง ๆ และช่วงท้ายเพื่อเป็นแหล่งอ้างอิงข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญในการเพิ่ม Traffic แก่เว็บไซต์ได้ ทั้งส่งผลต่อคะแนนบวกด้าน SEO อีกด้วย

ดูสถิติหลังบ้านประกอบ

สถิติการเข้าชมบทความต่าง ๆ นั้น ช่วยให้วางแผนการเขียนบทความต่อ ๆ ไปได้อย่างสมบูรณ์ขึ้น แนะนำให้ดูจาก Google analytics ที่แอดมินแต่ละเว็บไซต์เท่านั้นที่จะสามารถเข้าไปดูได้ เพื่อนำมาปรับใช้กับการส่งเสริมธุรกิจออนไลน์

จะเห็นได้ว่า การเขียนบทความ SEO ที่ดีนั้นเป็นเรื่องที่ต้องศึกษาและวางแผนอย่างเป็นระบบ ตั้งแต่การเลือกหัวข้อ เนื้อหา คีย์เวิร์ด และต้องดูสถิติตัวเลขต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในเว็บไซต์ว่ามีความสัมพันธ์กับแต่ละบทความอย่างไร ฯลฯ เราหวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกคนได้เรียนหลักการทำบทความ SEO เพื่อนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างดีด้วยตัวเอง แต่หากคุณไม่มีเวลาเรียนรู้ เราแนะนำให้จ้างนักเขียนบทความแนว SEO เพื่อประหยัดเวลาแลกความความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ในระยะยาว

5 เทคนิคทำการตลาดออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

5 เทคนิคทำการตลาดออนไลน์ที่ใคร ๆ ก็สามารถทำได้

ในโลกที่เต็มไปด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี การทำธุรกิจออนไลน์จึงเป็นหนึ่งในสิ่งที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด สำหรับมือใหม่ที่ต้องการสร้างแบรนด์หรือสร้างธุรกิจให้มีชัยเหนือคู่แข่งการทำการตลาดออนไลน์จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ด้วยเทคนิคต่อไปนี้

1.ทำความเข้าใจเรื่อง Social Media

การตลาดออนไลน์เราจำเป็นต้องเข้าใจกลุ่มลูกค้าและแพลตฟอร์มที่เราจะนำสินค้าไปลงขายเสียก่อน เพื่อ ซึ่งในปัจจุบันมีแพลตฟอร์มมากมายหลากหลายรูปแบบอาทิเช่น Facebook, Shopee, LINE, Twitter รวมถึง Instagram ที่จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้อย่างตรงจุดและมีประสิทธิภาพ

2.สร้างเว็บไซต์

แน่นอนว่าความน่าเชื่อถือเป็นหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้ลูกค้าตัดสินใจเข้ามาเลือกซื้อสินค้าและบริการของเรา ซึ่งการสร้างเว็บไซต์เป็นหนึ่งในทางเลือกที่ดีที่สุดที่จะช่วยให้เราเข้าถึงกลุ่มลูกค้าและสร้างความเชื่อมั่นได้ เราจึงจำเป็นต้องศึกษาเรียนรู้รูปแบบการทำเว็บไซต์นั่นเอง

3.บทความความรู้

ภายในเว็บไซต์ไม่จำเป็นต้องมีเพียงสินค้าหรือบริการเพื่อเสนอให้ลูกค้าได้เห็นเท่านั้น เพราะหนึ่งในตัวช่วยสำคัญที่จะทำให้การตลาดออนไลน์ของเรามีประสิทธิภาพ คือการเขียนบทความให้ความรู้แก่กลุ่มลูกค้าของเราเพื่อให้ลูกค้าทราบถึงความเชี่ยวชาญและมุมมองในการบริการ ตลอดจนเป็นหนึ่งในวิธีที่ช่วยส่งเสริมการขายของเราได้อีกด้วย

4.สร้างความสัมพันธ์ระหว่างธุรกิจและกลุ่มเป้าหมาย

วิธีนี้เป็นวิธีที่หลายคนมองว่ายาก ด้วยเหตุที่ต้องอาศัยปัจจัยหลาย ๆ ด้าน เช่น ข้อมูลลูกค้า สถิติ ยอดขายตลอดจนการเข้าถึงสินค้าแต่ละชนิด เพื่อจัดกิจกรรมกระชับความสัมพันธ์กับลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่หากเราสามารถทำได้ไม่ว่าจะเป็นการจัดทำโปรโมชั่น หรือการมอบสิทธิพิเศษต่าง ๆ ให้กับลูกค้า ก็ถือเป็นหนึ่งในวิธีที่จะช่วยให้เราสามารถกระชับสัมพันธ์และรักษากลุ่มลูกค้าได้อย่างดีแล้ว

5.สร้างแรงจูงใจในการตัดสินใจเลือกซื้อ

ในทุก ๆ สินค้าไม่ว่าจะเป็นสินค้าขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ สิ่งที่สำคัญในการทำให้สินค้าชนิดนั้น ๆ สามารถขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ดีมากที่สุด คือการสร้างแรงจูงใจให้ลูกค้าตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าและบริการของเรา ซึ่งเราสามารถทำได้ง่าย ๆ ผ่านการใช้บุคคลที่มีชื่อเสียงหรือการทำรีวิวจากลูกค้าที่เลือกใช้สินค้าและบริการของเรา เพื่อสร้างแรงกระตุ้นในการซื้อ

การทำการตลาดออนไลน์ในยุคปัจจุบันเป็นหนึ่งในวิธีที่สำคัญที่จะช่วยให้ธุรกิจของเราเติบโตแบบก้าวกระโดดได้ในระยะเวลาอันสั้น ทั้งนี้นอกจากการทำการตลาดด้วยวิธีดังกล่าวข้างต้น เรายังจำเป็นต้องใส่ใจในเรื่องคุณภาพของสินค้า เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้าให้ได้อย่างชัดเจน ด้วยแนวคิดนี้เราจึงจะสามารถสร้างยอดขายได้อย่างยั่งยืนและยาวนาน