การตลาดออนไลน์ และ 5 เทคนิคการปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอดในวิกฤติโควิด-19

การตลาดออนไลน์ และ 5 เทคนิคการปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอดในวิกฤติโควิด-19

ปัจจุบันทั่วโลกกำลังเผชิญกับวิกฤติการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ซึ่งยังไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปในเร็ววันนี้ ผลกระทบที่เกิดขึ้นนอกจากจะส่งผลต่อปัญหาสุขภาพอนามัยของผู้คนแล้ว ยังทำลายระบบเศรษฐกิจให้หยุดชะงักลงอีกด้วย หลายธุรกิจต้องพยายามดิ้นรนและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดในยุคที่ผู้คนแทบไม่กล้าออกจากบ้าน แต่ถึงอย่างนั้น หลายธุรกิจก็ต้องปิดตัวลงเพราะไม่สามารถปรับตัวได้ทัน ดังนั้น วันนี้เราจึงจะมาแนะนำ 5 เทคนิคการปรับตัวให้ธุรกิจอยู่รอดในวิกฤติโควิด-19

1.เริ่มทำธุรกิจออนไลน์
ในเมื่อคนไม่กล้าออกจากบ้าน การจับจ่ายใช้สอยบนช่องทางออนไลน์จึงเติบโตมากขึ้นเรื่อย ๆ ดังนั้น ใครที่กำลังทำธุรกิจขายสินค้าและบริการแบบออฟไลน์ หรือขายตามหน้าร้านแบบเดิม ควรจะขยายการตลาดของตัวเองให้กว้างขวางขึ้นด้วยการอาศัยแพลตฟอร์มออนไลน์ต่าง ๆ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น ในเมื่อลูกค้าไม่เดินเข้าร้าน เราก็ต้องเป็นฝ่ายเข้าหาลูกค้าทางออนไลน์แทน

2.ใช้ประโยชน์จากคอนเทนต์ออนไลน์ให้มากที่สุด
ปัจจุบัน ธุรกิจออนไลน์แทบทุกประเภทล้วนให้ความสำคัญกับการผลิตคอมเทนต์โฆษณาของตัวเองอย่างมาก จนเรียกได้ว่าแทบจะแข่งกันผลิตคอนเทนต์เลยก็ว่าได้ ยิ่งเรามีคอนเทนต์ที่น่าสนใจ แตกต่างจากคู่แข่งรายอื่น ๆ มากเท่าไหร่ ก็ยิ่งเพิ่มความน่าสนใจให้แบรนด์ของเรามากขึ้นเท่านั้น ซึ่งจะต้องใช้เครื่องมือที่เหมาะสมสำหรับการตลาดออนไลน์ช่วยในการผลิต

3.สร้างภาพลักษณ์ที่ดีของแบรนด์ให้สม่ำเสมอ
ในช่วงการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่ผู้คนไม่ได้ออกมาเลือกซื้อสินค้าและบริการด้วยตัวเองที่หน้าร้านเหมือนสมัยก่อน เรายิ่งต้องรักษาภาพลักษณ์และความน่าเชื่อถือของแบรนด์ ซึ่งต้องอาศัยกลยุทธ์ทางด้านการตลาดที่เรียกว่า “การสื่อสารแบรนด์” (Brand Communication) ที่สื่อสารกับลูกค้ากลุ่มเป้าหมายให้เห็นถึงปรัชญาองค์กร และพันธกิจขององค์กร รวมถึงวิสัยทัศน์การดำเนินธุรกิจของเรา

4.ศึกษาเครื่องมือด้านการตลาดออนไลน์ให้มากที่สุด
ปัจจุบัน การตลาดออนไลน์มีกลยุทธ์หรือเครื่องมือมากมายที่เราสามารถหยิบมาใช้เพิ่มผลสำเร็จทางธุรกิจได้มากขึ้น ทั้งการซื้อโฆษณาบนสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook Ads, Google Ads, Twitter ฯลฯ หรือการทำ SEO ให้เว็บไซต์ของเราติดอันดับบนหน้าการค้นหาของ Google ซึ่งการจะใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้ได้ผลลัพธ์ทางธุรกิจมากที่สุดจะต้องอาศัยประสบการณ์และความชำนาญพอสมควร

5.รักษาฐานลูกค้าเก่าและพยายามหาลูกค้าใหม่
ในช่วงเศรษฐกิจตกต่ำอย่างทุกวันนี้ การรักษาฐานลูกค้าเดิมเอาไว้ให้ได้จะทำให้ธุรกิจของเราสามารถประคองตัวอยู่รอดต่อไปได้ ซึ่งต้องอาศัยการสื่อสารที่เป็นมิตรกับลูกค้าเก่า การมอบสิทธิพิเศษบางอย่าง รวมถึงให้การดูแลเป็นพิเศษแก่กลุ่มลูกค้าเหล่านี้ ขณะเดียวกันเราก็ต้องพยายามขยายฐานลูกค้าให้กว้างขึ้น เพื่อเพิ่มโอกาสในการพลิกฟื้นธุรกิจหลังช่วงวิกฤติ

เทคนิคทั้ง 5 ข้อที่นำมาฝากกันในวันนี้ บางข้ออาจไม่ใช่เรื่องที่ทำกันได้ง่าย ๆ ในระยะเวลาอันสั้น ดังนั้น บางคนอาจหาผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดออนไลน์มาให้คำปรึกษาและช่วยเหลือวางทิศทางการทำธุรกิจต่อจากนี้ แม้อาจจะต้องเสียค่าใช้จ่าย แต่ก็ถือว่าคุ้มค่าหากช่วยให้ธุรกิจของเราผ่านช่วงวิกฤตินี้ไปได้

การตลาดออนไลน์ยุคใหม่ ต้องใส่ใจในประเด็นใดบ้าง

การตลาดออนไลน์ยุคใหม่ ต้องใส่ใจในประเด็นใดบ้าง
การตลาดออนไลน์ยุคใหม่ ต้องใส่ใจในประเด็นใดบ้าง

ถ้าคุณจะทำการตลาดออนไลน์ให้ขายของได้ปริมาณมากกว่าคนอื่น ท่ามกลางการแข่งขันที่ขายสินค้าประเภทเดียวกัน คุณต้องมองหาจุดแตกต่างของตัวเองให้ได้ จึงจะขายได้มากยิ่งขึ้น และได้กลุ่มลูกค้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว

เรามาดูกันว่าหากจะทำการตลาดออนไลน์ต้องสนใจประเด็นใดบ้าง

1.ให้สาระความรู้แก่ลูกค้าก่อนขาย
การผลิตคอนเทนต์ออนไลน์ควรเน้นตัวสาระความรู้เป็นหลักมากกว่าการให้ข้อมูลส่งเสริมการขายหรือเกี่ยวกับตัวสินค้า เพราะจะทำให้คุณได้รับความไว้วางใจเชื่อมั่นจากลูกค้ามากยิ่งขึ้น
เช่น คุณต้องการขายสีทาบ้าน คุณก็ต้องให้ข้อมูลความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการดูแลบ้านให้สวยงาม การทำบ้านให้เย็นด้วยใช้วัสดุฝ้ากันความร้อนและสีทาบ้านรุ่นใหม่ ๆ การตกแต่งส่วนต่าง ๆ ด้วยตัวเอง ฯลฯ เหล่านี้เป็นข้อมูลที่คนอยากเรียนรู้เพื่อใช้ในการดูแลบ้านตัวเอง เมื่อผู้คนเห็นว่าคุณจริงใจในการให้ความรู้และอยากดูแลบ้านให้สวยงามก็จะสนใจเลือกซื้อสินค้าของคุณเอง

2.มองให้เห็นความต้องการของลูกค้า
หากคุณต้องการขายเสื้อยืดให้ได้ในกลุ่มลูกค้าเพศชาย คุณต้องพิจารณาว่าคุณจะสร้างสินค้าที่มีจุดเด่นอย่างไร ลูกค้าผู้ชายส่วนใหญ่นั้นจะไม่ค่อยเปลี่ยนแบรนด์สินค้าที่ใช้อยู่ ดังนั้น คุณอาจต้องศึกษาว่าปัญหาของลูกค้าผู้ชายส่วนใหญ่ในการหาซื้อเสื้อยืดคืออะไรบ้าง
ตัวอย่างเช่น ผู้ชายอายุมากกว่า 40 ปีมักมีปัญหาลงพุงหรือภาวะน้ำหนักเกิน ทำให้สวมใส่เสื้อยืดแล้วบุคลิกภาพดูไม่ดี หรือใส่แล้วอึดอัด คุณก็อาจต้องออกแบบดีไซน์เสื้อยืดของคุณให้มีสีที่พรางรูปร่าง และทำทรงให้บริเวณหน้าท้องหลวมขึ้นเพื่อให้สวมใส่ได้สบาย ทั้งต้องเลือกเนื้อผ้าที่ระบายความร้อนได้ดี เพราะผู้ชายมักจะมีกิจกรรมออกกำลังกายหรือทำงานที่เหงื่อออกง่าย ทำให้เกิดการเหม็นอับและไม่มั่นใจได้

3.เทคนิคตั้งราคา
หากคุณต้องการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าให้ได้เหนียวแน่น จำเป็นต้องตั้งราคาให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงต้นทุนกำไรและใช้หลักจิตวิทยา เช่น หากคุณต้องการสร้างมูลค่าของอาหารแบรนด์คุณให้ดูดีเสริมภาพลักษณ์ คุณก็ต้องตั้งราคาให้สูงหน่อย พร้อมกับให้ที่มาที่ไปได้ว่าเหตุผลนั้นมาจากวัตถุดิบที่นำเข้าจากต่างประเทศ การเลือกแหล่งเพาะปลูกที่เป็นออร์แกนิก ปลอดสารพิษ บนกรรมวิธีไร้ไขมันทรานส์ เพื่อสุขภาพที่ดีของผู้รับประทาน เป็นต้น จะทำให้ผู้รักสุขภาพสนใจและเชื่อมั่นในอาหารแบรนด์ของคุณได้ และยอมรับกับราคาที่สูงกว่าแบรนด์อื่นได้เอง

หากจะทำการตลาดออนไลน์รุ่นใหม่ให้ประสบความสำเร็จนั้น คุณจะต้องศึกษาอย่างดี และให้ข้อมูลที่เหมาะสมแก่ลูกค้า เพื่อให้ลูกค้าเห็นความแตกต่างระหว่างสินค้าของคุณกับแบรนด์อื่นที่มีอยู่ จะทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างดียิ่งขึ้นแน่นอน

เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์

เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับการตลาดออนไลน์

ปฏิเสธไม่ได้ว่าคนในยุคนี้นิยมซื้อขายสินค้าในยุคปัจจุบันผ่านทางระบบอินเทอร์เน็ตมากกว่า 80% เพราะกำลังอยู่ในยุคที่ไวรัส covid-19 ระบาด ซึ่งคนส่วนใหญ่ต้องเก็บตัวอยู่กับบ้าน และเนื่องจากผลกระทบทางด้านเศรษฐกิจโดยรวม จึงทำให้ทุกคนต้องรัดเข็มขัดลดค่าใช้จ่ายในการเดินทางด้วย การทำการตลาดออนไลน์ จึงเป็นเรื่องสำคัญที่นักธุรกิจที่อยากประสบความสำเร็จควรรู้ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้

1.ประเภทของการตลาดออนไลน์
การตลาดออนไลน์แบ่งได้เป็น 2 ส่วนที่สำคัญ คือ การโฆษณาหรือ SEM (Search Engine Marketing) และการทำ SEO (Search Engine Organization) โดยเน้นที่การผลิตเนื้อหาบทความ คลิปวิดีโอ ภาพกราฟิกที่น่าสนใจ ดึงดูดสายตาลูกค้ากลุ่มเป้าหมาย ผ่านพื้นที่โฆษณาที่เสียค่าใช้จ่ายให้ Google หรือโพสต์บนเฟซบุ๊กและเว็บไซต์ธุรกิจ ซึ่งควรทำควบคู่กันเพื่อเสริมอำนาจการแข่งขันให้ใกล้เคียงกับบริษัทเจ้าตลาดเดิม

2.ใช้อินฟลูเอนเซอร์ประชาสัมพันธ์
อินฟลูเอนเซอร์หมายถึงกลุ่มคนที่มีอิทธิพลต่อความรู้สึกของผู้รับสาร เช่น ดารานักแสดง นับว่าเป็นผู้ทรงอิทธิพลมากที่สุด ส่งผลเป็นวงกว้างในการสร้างความรับรู้ต่อผลิตภัณฑ์สินค้า สร้างภาพจดจำสินค้าได้เร็วและชัดเจนตามภาพลักษณ์ของดารานักแสดง อย่างไรก็ตามการจ้างดารานักแสดงมักมีค่าใช้จ่ายสูง ปัจจุบันบริษัทส่วนใหญ่จึงนิยมจ้างเน็ตไอดอลหรือยูทูปเบอร์ที่มีคนติดตามเป็นจำนวนมากแทน โดยเลือกคนที่มีบุคลิกลักษณะโดดเด่นและมีกลุ่มบุคคลผู้ติดตามจำนวนมาก และตรงกับกลุ่มเป้าหมายของสินค้า ซึ่งช่วยเพิ่มยอดขายได้คุ้มค่ามากกว่าค่าจ้างหลายเท่าตัว

3.การเลือก Web Hosting
หากเป็นธุรกิจขนาดกลางถึงใหญ่ จำเป็นต้องเลือก web hosting ที่ดี เพราะในช่วงเวลาพักผ่อนของคนส่วนใหญ่ คือ 18.00-21.00 น. มักมีอัตราการเข้าชมข้อมูลสินค้าหรือใช้บริการระบบอีคอมเมิร์ซพร้อมกันจำนวนมาก ดังนั้น หากเลือก web hosting ที่บริการผ่านแพ็กเกจเล็กเกินไปหรือเป็นระบบแชร์ทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ เพราะเน้นเพียงค่าใช้จ่ายถูก จะทำให้เว็บไซต์ล่มเพราะเกิดการแย่งระบบทรัพยากรคอมพิวเตอร์กับเว็บไซต์อื่นด้วย ทางที่ดีควรปรึกษา web hosting ที่มีทีมงานบริการมืออาชีพ ให้คำแนะนำขนาดและรูปแบบแพ็กเกจที่เหมาะสมให้ และควรถามถึงแนวทางการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าด้วย เพื่อไม่ให้ประสบปัญหาดังกล่าว

4.คิดโปรโมชั่นใหม่ ๆ
การตลาดออนไลน์จะประสบความสำเร็จได้ ถ้าไม่หยุดนิ่งคิดโปรโมชั่นใหม่ ๆ เช่น บางรายจะให้ราคาพิเศษ ในวันที่ 11 เดือน 11 ของปี เพื่อกระตุ้นให้คนโสดซื้อของขวัญให้ตัวเอง หรือออกแบบระบบแต้มสะสมหากมีการรีวิวสินค้า เพื่อรักษาลูกค้าเก่าและจูงใจลูกค้าใหม่ให้เชื่อมั่นได้เร็วขึ้น เป็นต้น

การตลาดออนไลน์เป็นศาสตร์ที่จำเป็นจะต้องศึกษาองค์ประกอบหลายด้านพร้อมกัน เพื่อทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตไปได้อย่างดียิ่งขึ้น หวังว่าบทความนี้จะเป็นแรงผลักดันให้ทุกท่านใส่ใจการตลาดออนไลน์ เพื่อเพิ่มยอดขายสินค้าและบริการของคุณให้มากยิ่งขึ้นต่อไป

3 ช่องทางการตลาดออนไลน์ปี 2020 ช่วยเพิ่มยอดขาย

ช่องทางการตลาดออนไลน์ปี 2020 ช่วยเพิ่มยอดขาย

สมัยนี้การทำธุรกิจบนโซเชียลมีเดีย ได้รับความนิยมอย่างสูง และเปิดกว้างมากขึ้น อาจเป็นเพราะจุดเด่นที่ช่วยประหยัดเวลาในการเดินทาง และการเช่าหน้าร้าน อีกทั้งยังมีแอปพลิเคชันช่วยเพิ่มช่องทางการช้อปปิ้ง และมีบริษัทจัดส่งสินค้ารองรับเป็นจำนวนมาก จึงทำให้คนส่วนใหญ่ทั้งที่ว่างงานและมีงานประจำ ต่างหันมาแสวงหาโอกาสขายของและสนใจทำการตลาดออนไลน์หรือ Online Marketing กันมากขึ้น

ดังนั้นจึงต้องเรียนรู้กลยุทธ์ในการทำโฆษณา เพื่อโปรโมทสินค้าและเว็บไซต์ขายสินค้าให้ประสบความสำเร็จ เราจึงมี 3 ช่องทางมาแนะนำ เพื่อเป็นแนวทางในการวางแผนการตลาดให้กับสินค้าของคุณได้ โดยเป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ ปี 2020 ที่นิยมใช้เพื่อช่วยเพิ่มยอดขาย ดังนี้

1.การตลาดออนไลน์ บนช่องทางโซเชียลมีเดียต่าง ๆ เช่น Facebook, YouTube, Instagram, Pinterest และ Twitter เป็นต้น โดยทุกแพลตฟอร์มจะมีส่วนของการลงโฆษณาซึ่งคุณสามารถโปรโมทสินค้าได้อย่างตรงกลุ่มเป้าหมาย กล่าวคือเป็นกลุ่มคนที่มีแนวโน้มสนใจในสินค้าของคุณ ซึ่งได้ผลมากกว่าช่องทางโฆษณาอื่น ๆ เพราะลูกค้ายุคใหม่ใช้สมาร์ทโฟนแทบทุกเวลาที่ตื่นอยู่ ทำให้มีโอกาสสร้างยอดขายเพิ่มได้อย่างมาก

2.การตลาดบน Search Engine ได้แก่ Google Marketing / SEM / SEO เป็นกระบวนการทำงานผ่านเว็บไซต์ Google โดยใช้คำที่เป็นคีย์เวิร์ด เพื่อทำให้สินค้าของคุณติดอันดับการค้นหาในลำดับต้น ๆ ซึ่งการทำ SEO นั้น เมื่อติดอันดับแล้ว จะสามารถประหยัดค่าโฆษณาทางตรงลงได้มาก อีกทั้งได้รับความเชื่อถือจากกลุ่มลูกค้าอีกด้วย ส่วนการโฆษณาแบบจ่ายต่อคลิกหรือ PPC เช่น การซื้อ Ads บนเว็บไซต์ของ Google จะช่วยทำให้คนเห็นได้ง่ายและคลิกได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น สามารถโฟกัสตรงไปยังกลุ่มเป้าหมายได้เช่นกัน เช่น เจาะจงสถานที่ของผู้ชม ระยะเวลาการแสดงโฆษณา รวมถึงสามารถวัดผลได้ และเปรียบเทียบโฆษณาแบบ A/B Testing ได้

3.การตลาดที่อาศัยกลยุทธ์การจ้าง “ผู้ที่มีอิทธิพลต่อสังคม” หรือ อินฟลูเอนเซอร์ เช่น เนตไอดอล ศิลปิน ดารา ดีเจ หรือเจ้าของแบรนด์ดัง เป็นต้น มาช่วยรีวิวหรือพูดถึงสินค้าและบริการของคุณ เป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและเห็นผลเร็วที่สุด เพราะลูกค้าสมัยนี้เชื่อการชี้นำจากศิลปินนักแสดงคนโปรดที่ตนชื่นชอบมากกว่าเชื่อตัวเองเสียอีก

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะมีการโปรโมทหรือทำการตลาดออนไลน์ในช่องทางต่าง ๆ มากมายสักเท่าไร แต่ก็อย่าลืมพัฒนาคุณภาพสินค้าและบริการ และจัดส่งให้ถูกต้องตรงต่อเวลาด้วย เพราะความซื่อสัตย์และความรับผิดชอบนั้นถือเป็นเรื่องสำคัญมากในการทำธุรกิจ นอกจากจะมัดใจลูกค้าให้อยู่หมัดได้แล้ว ยังเป็นตัวช่วยเพิ่มยอดขายให้คุณได้อย่างเกินความคาดหมายด้วย

เหตุผลที่คนทำเว็บ จะต้องสร้างเว็บให้มีความน่าเชื่อถือ

เหตุผลที่คนทำเว็บ จะต้องสร้างเว็บให้มีความน่าเชื่อถือ

ปัจจุบันการทำการตลาดออฟไลน์เพียงอย่างเดียวไม่ได้แล้วเพราะมีการตลาดอีกแบบหนึ่งที่หลายคนหรือหน่วยงานได้มีการพูดถึงและส่งเสริมกัน เรียกว่า การตลาดออนไลน์ ซึ่งเป็นการตลาดที่มีลูกค้ารอคุณอยู่บนโลกออนไลน์ แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีคนส่วนน้อยที่พอทราบบ้าง แต่เป็นแบบที่ยังไม่ชัดเจนเท่าไหร่นักเกี่ยวกับการตลาดออนไลน์ทำให้เมื่อมีการ Search ใน Google ธุรกิจก็จะไม่ขึ้นหรือไม่ถูกมองเห็นส่งผลทำให้ธุรกิจอยู่ไม่ได้ จึงต้องปรับตัวให้เว็บไซต์มีความน่าเชื่อถือ

หากคนทำเว็บได้สร้างเว็บให้มีความน่าเชื่อถือ ถือว่าเว็บไซต์เป็นเครื่องมือหนึ่งในการขยายตลาดออนไลน์ได้อย่างรวดเร็วและง่ายมากขึ้น ธุรกิจมีโอกาสนำไปสู่การเติบโตได้สูง ถึงแม้ว่าปัจจุบันการทำธุรกิจออนไลน์จะมีการแข่งขันสูงก็ตาม คนทำเว็บหรือผู้ประกอบการที่จะทำธุรกิจออนไลน์ สามารถเริ่มต้นในการสร้างเว็บไซต์ของตัวเองที่มีความน่าเชื่อถือได้ ส่งผลดีในการ Search หรือเว็บไซต์จะได้ติดอยู่หน้าแรกของ Google เพราะจะมีผู้คนค้นหาและเข้ามาพบเจอเว็บไซต์ของธุรกิจได้ตลอด 24 ชั่วโมง กลายเป็นเว็บไซต์ที่มีผู้คนรู้จักกันอย่างมากมายเลยทีเดียว

การขายสินค้านั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การนำสินค้าจากคนอื่นมาขายโดยที่ไม่ต้องสต็อกสินค้า สินค้าแบบโรงงานอุตสาหกรรมซึ่งไม่ว่าจะเป็นสินค้าในรูปแบบไหน หากคนทำเว็บได้สร้างเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือ ก็จะทำให้สะดวกในการขายสินค้าเหล่านี้ และถ้าจะเพิ่มความสะดวกมากขึ้นไปอีก คนทำเว็บควรจะเน้นการเข้าถึงง่ายเพื่อให้ผู้เข้ามาดูเว็บสะดวกในการซื้อสินค้า เพียงคลิกประมาณ 2 – 3 ครั้ง โดยที่ตัวอักษรไม่ต้องมีมากมายแต่เน้นรูปสินค้าให้เด่น การสร้างเว็บไซต์ที่น่าเชื่อถือจะช่วยให้คุณได้ลูกค้าใหม่ ๆ จากที่มีกลุ่มลูกค้าเดิม ๆ อยู่แล้ว

โอกาสในโลกออนไลน์นั้นมีอยู่ตลอดเวลา

ลองคิดดูว่าหากมีคนค้นหาสินค้าที่คุณขายประมาณ 1,000 คนต่อวัน แต่กลับไม่พบเห็นเว็บไซต์ของคุณ หรือเห็นแล้วแต่ดูน่าเชื่อถือน้อยกว่าเว็บไซต์อื่น ๆ ก็เท่ากับว่าเสียโอกาสได้ลูกค้าใหม่ ๆ นี้ไป ดังนั้น หากอยากให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนจริง ๆ คนทำเว็บจะต้องสร้างเว็บให้มีความน่าเชื่อถือตามเหตุผลที่เราได้กล่าวไว้ข้างต้น ซึ่งเป็นเว็บที่รองรับทุกอย่างทั้งระบบของเว็บไซต์ การตลาดภายในตัวเว็บไซต์ เพราะจะเป็นตัวช่วยในการหาลูกค้าได้ดีเยี่ยม ด้วยเหตุนี้เอง ความน่าเชื่อถือของเว็บไซต์จึงเป็นสิ่งที่คนทำเว็บต้องเน้นเรื่องนี้เป็นสำคัญ

5 เทคนิคสู่ความสำเร็จในธุรกิจระดับมืออาชีพ

5 เทคนิคสู่ความสำเร็จในธุรกิจระดับมืออาชีพ

ในยุคที่มนุษย์ต้องพึ่งพาเทคโนโลยีต่าง ๆ เพื่อสร้างกลยุทธ์ในการทำธุรกิจและการทำธุรกรรมต่าง ๆ ในชีวิตประจำวันมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการจับจ่ายใช้สอย ชำระค่าบริการผ่านระบบอินเทอร์เน็ตของธนาคาร หรือการช้อปปิ้งออนไลน์ผ่านผู้ให้บริการร้านค้าออนไลน์ที่มีอยู่เป็นจำนวนมากในปัจจุบัน ปัจจัยเหล่านี้คือประตูบานใหญ่ที่เปิดต้อนรับธุรกิจออนไลน์และนักการตลาดออนไลน์ทั้งหลาย ที่สามารถปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ทางธุรกิจให้เข้ากับยุคสมัย โดยอาศัยเทคนิคการสร้างแบรนด์ และมีระบบการตลาดออนไลน์เพื่อสร้างกิจกรรมการขายให้ทันยุคสมัยแห่งเทคโนโลยีนี้ มาดูกันว่าเทคนิค 5 ข้อที่ช่วยให้คุณเป็นนักการตลาดออนไลน์แบบมืออาชีพมีอะไรบ้าง

  1. การเรียนรู้เทคโนโลยีคือสิ่งสำคัญ หากคุณกระโจนเข้าสู่การตลาดออนไลน์แบบเต็มตัวแล้วล่ะก็ ต้องเรียนรู้เกี่ยวกับเครื่องมือสำหรับการตลาดออนไลน์ ได้แก่ platform Marketplace ต่าง ๆ รวมไปถึงเรื่องของ Search Engine, Website, SEO และ Social ต่าง ๆ โดยนำมาประกอบกับประสบการณ์และความเชื่อมั่นอย่างเต็มเปี่ยมในคุณภาพสินค้าและบริการที่อยู่ในมือคุณ
  2. จินตนาการสำคัญกว่าความรู้ นอกจากหัวใจของการขายแล้ว ความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการเพื่อหามุมมองใหม่ ๆ ทางการตลาด ก็สามารถช่วยให้คุณพัฒนากลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์ให้โดดเด่นและดึงดูดใจลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น
  3. ทำงานเป็นทีม พึงระลึกไว้เสมอว่า การตลาดไม่สามารถทำงานเพียงลำพังได้ ดังนั้นการเตรียมพร้อมด้านข้อมูลที่ดี มีมนุษย์สัมพันธ์ดี ก็จะยิ่งช่วยให้การประสานงานกับผู้ที่เกี่ยวข้องอื่น ๆ ทั้งภายในและภายนอกขององค์กรดำเนินไปอย่างราบรื่นและสำเร็จเสร็จสิ้นตรงตามเป้าหมายได้ในที่สุด
  4. มีความสามัคคี การตลาดออนไลน์เป็นงานที่ท้าทาย ต้องอาศัยความอดทนและความยืดหยุ่นสูง การใช้เหตุผลและความถูกต้องในการทำงานร่วมกับทีมหรือแม้แต่ในการประชุมที่มีข้อโต้เถียงกัน จะช่วยลดทิฐิและอารมณ์ต่าง ๆ ลง นักการตลาดออนไลน์ที่ดีจึงต้องแสดงความคิดเห็นหรือชักจูงให้ทีมมีความสามัคคี ทำงานร่วมกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน เพื่อสร้างผลสำเร็จของงานร่วมกันได้
  5. มีความซื่อสัตย์ต่อจรรยาบรรณในวิชาชีพของตนเอง ปัจจุบันโลกของเราเต็มไปด้วยการเปลี่ยนแปลง เช่นเดียวกับการตลาดออนไลน์ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตามปัจจัยแวดล้อม ทั้งในด้านเทคโนโลยีและพฤติกรรมของผู้บริโภค แต่ไม่ว่าทุกอย่างจะเปลี่ยนไปอย่างไร มีสิ่งหนึ่งที่ต้องยึดมั่นไว้เสมอคือ ลูกค้าจะต้องได้รับสินค้าและบริการที่ดีเยี่ยม เพราะจะส่งผลดีในระยะยาว

ดังนั้นการทำการตลาดออนไลน์แบบมืออาชีพ จำเป็นต้องเตรียมพร้อมอยู่เสมอ ไม่ว่าคุณจะทำสินค้าขายบนโลกอินเตอร์เน็ต เปิดเว็บเช่าคอนโด วิเคราะห์บอล เกมส์ออนไลน์ ต้องพร้อมที่จะเปิดรับและเรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ เพื่อนำมาปรับใช้กับตนเองและองค์กร เรียนรู้จากข้อผิดพลาดและลงมือแก้ไขอย่างทันท่วงที สิ่งเหล่านี้จะสร้างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจให้แก่ลูกค้าและตัวคุณเอง เมื่อคุณสามารถวางกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่เชื่อมโยงทุกอย่างเข้าด้วยกันอย่างสอดคล้องและเป็นระบบ ก็จะนำคุณสู่ความสำเร็จที่ตั้งเป้าหมายไว้ในที่สุด

ทำการตลาดออนไลน์อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

ทำการตลาดออนไลน์อย่างไร ให้ประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว

การตลาดออนไลน์เป็นช่องทางประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวคุณได้หากเรียนรู้หลักการทำที่ถูกต้อง ซึ่งสามารถเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าได้ทุกประเภททางสื่อโซเชียล โดยจะมีวิธีการอย่างไรบ้างนั้น มาดูพร้อมกันเลย

1. ใช้ประโยชน์จาก search engine หลายชนิด
ผู้คนนิยมหาชื่อสินค้าและบริการผ่านการพิมพ์ในช่อง Search ของ Google ดังนั้น Google จึงเป็นตลาดการค้าออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุด ซึ่งจะมีการจัดอันดับของเว็บไซต์ตามคะแนน SEO ที่คำนวณด้วยระบบ algorithm และแบบเช่าพื้นที่โฆษณา ที่เรียกว่า Google Ads นอกจากนี้ ยังมีช่องทางที่คนนิยมใช้ค้นหาอื่น ๆ ก็คือทาง Facebook และ Instagram ซึ่งจะเป็นกลุ่มวัยรุ่นและวัยทำงานที่มีความสนใจเฉพาะเจาะจงมากกว่า

2. ใช้คีย์เวิร์ดที่ดีสำหรับการสืบค้น
การเลือกใช้คีย์เวิร์ดในการผลิตบทความ SEO มีส่วนสำคัญอย่างมาก ที่จะทำให้คนเห็นบทความดี ๆ ของคุณ ซึ่งต้องศึกษาระบบการวิเคราะห์คุณภาพของเพจหรือเว็บไซต์ตามแต่ชนิดของ search engine นั้น ๆ ควบคู่ด้วยจึงจะมีประสิทธิภาพสูงที่สุด

3. เขียนบล็อกที่มีคุณภาพและสร้างอัตลักษณ์ให้กับแบรนด์
การสร้างความน่าเชื่อถือในบทความเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้ผู้คนเชื่อมั่นในตัวสินค้าตามไปด้วย เช่น คุณจำหน่ายเครื่องฟอกอากาศ ก็จำเป็นต้องเขียนบทความที่มีเนื้อหาแนววิชาการ เชื่อถือได้สูง มีแหล่งอ้างอิงทั้งในและต่างประเทศ และยังต้องหมั่นนำเสนอเรื่องราวใหม่ ๆ ที่เกี่ยวข้องทางด้านสุขภาพของบุคคลทุกวัยในครอบครัวด้วย

4. มีช่องทางติดต่อที่หลากหลาย
ปัจจุบัน คนนิยมติดต่อกันทางไลน์ ระบบ Messenger หรือ Twitter ซึ่งจะมีการตอบโต้ได้อย่างรวดเร็วฉับไวระหว่างผู้โพสต์และผู้ติดตาม รวมถึงการแชร์แบ่งปันเนื้อหาและการติดต่อพูดคุยสอบถามหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการ คุณจึงควรเรียนรู้การใช้เครื่องมือเหล่านี้ให้เต็มประสิทธิภาพ เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว

5. ศึกษาสถิติของแต่ละระบบ
สถิติมาจากการคำนวณและวิเคราะห์ของแต่ละแพลตฟอร์ม คุณสามารถเข้าไปศึกษาระบบสถิติได้ว่ามีจำนวนคนติดตามเพิ่มขึ้นหรือไม่ เนื้อหาแนวใดที่มีคนสนใจ เพื่อเป็นตัวกำหนดทิศทางได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ว่าเนื้อหาชิ้นต่อไปนั้นควรจะเป็นเช่นไร ที่จะดึงดูดใจลูกค้ากลุ่มเป้าหมายได้มากขึ้นกว่าเดิม

6. การจ้างยูทูปเบอร์
ช่องทางการตลาดที่มาแรง คงหนีไม่พ้นทาง youtube ซึ่งหากคุณติดต่อจ้างยูทูปเบอร์ให้ช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าให้ในช่องที่มีคนติดตามหลักแสน ก็จะทำให้สินค้าเป็นที่รู้จักในวงกว้างในเวลารวดเร็ว ขณะเดียวกัน ก็ได้รับความเชื่อมั่นสูงจากผู้ติดตามของยูทูปเบอร์คนนั้น ๆ ด้วย

โลกโซเชียลเป็นช่องทางสร้างรายได้ที่สำคัญในโลกยุคปัจจุบัน ผู้ที่ศึกษาการทำการตลาดออนไลน์อย่างจริงจังและปฏิบัติอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ประสบความสำเร็จได้ดี และมีอำนาจในการแข่งขันสูงกว่าแบรนด์สินค้าอื่นอย่างแน่นอน

ทำการตลาดออนไลน์ ให้ประสบความสำเร็จ

ปรับตัวอย่างไรเมื่อการค้าขายอยู่ในโลกของออนไลน์

คำแนะนำเมื่อขายของในโลกของออนไลน์

เมื่อเราอยู่ในยุคที่ทุกอย่างสามารถซื้อขายผ่อนออนไลน์ ทำให้เข้าถึงลูกค้าได้ง่ายจากช่องทางสื่อโชเชียล แต่การตลาดออนไลน์ก็ไม่ได้ทำให้ทุกธุรกิจประสบความสำเร็จได้ทุกราย แม้ว่าแพลตฟอร์มออนไลน์จะทำให้เกิดการซื้อขายและเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายก็ตาม แต่เจ้าของธุรกิจหรือพ่อค้าแม่ค้าออนไลน์ก็ต้องปรับตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อให้ธุรกิจอยู่รอด แล้วจะปรับตัวอย่างไรเมื่อการค้าขายอยู่ในโลกของออนไลน์ เรามีคำแนะนำดี ๆ ดังนี้

คำแนะนำเมื่อขายของในโลกของออนไลน์

เข้าใจรูปแบบแต่ละแพลตฟอร์ม

การตลาดออนไลน์มีหลายแพลตฟอร์ม ไม่ว่าจะเป็น เว็บไซต์ เพจ เฟซบุ๊ก ไลน์@ หรือแพลตฟอร์มต่าง ๆ ที่เป็นมาร์เกตเพลส ความหลากหลายของการตลาดออนไลน์เหล่านี้ ทำให้เกิดการแข่งขันของแต่ละแพลตฟอร์มที่สูง หากเราไม่เข้าใจรูปแบบหรือลักษณะของการตลาดแต่ละแพลตฟอร์มอย่างลึกซึ้งจะทำให้เราวางแผนการตลาดผิดพลาดได้ เช่น หากเราเป็นรูปแบบบริษัท ขายสินค้าที่มีราคาสูง สิ่งที่ต้องให้ความสำคัญให้มากคือเว็บไซต์ เพราะเปรียบเสมือนหน้าตาของแบรนด์ เป็นเหมือนดั่งบ้านที่อยู่ในโลกของออนไลน์ ถ้าไม่มีเว็บไซต์ ความน่าเชื่อถือก็น้อยลงตามไปด้วย เป็นต้น

เกาะติดสถานการณ์และมอนิเตอร์ยอดขายทุกวัน

โลกออนไลน์นั้นมีการเคลื่อนไหวและเกิดการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การจะขายของในออนไลน์ให้อยู่รอดได้ คุณต้องเร็ว หากช้าถือคุณจะพลาดโอกาสทองนั้นไปและจะไม่มีโอกาสที่สองอีก ต้องทันเหตุการณ์ เกาะติดทุกสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปของโลกเพราะทุกอย่างล้วนส่งผลถึงกันหมด แล้วเช็คยอดขายที่เกิดขึ้น จะช่วยให้เตรียมรับมือได้ทัน

รู้จักกลุ่มเป้าหมายที่เป็นลูกค้าให้ได้ก่อน

ไม่ว่าเราจะขายสินค้าในแพลตฟอร์มไหนเราต้องรู้จักลูกค้าที่เป็นกลุ่มเป้าหมายสินค้าเราให้ได้ก่อน หลักการนี้ถือว่าเป็นหัวใจสำคัญของการตลาดทั้งออฟไลน์และออนไลน์ เพราะวันนี้ถ้าเราไม่รู้ว่าเราจะขายสินค้าให้ใคร เราจะเลือกใช้วิธีการกับกลุ่มเป้าหมายไม่ตรงจุด ทำให้มีผลกับการตัดสินใจซื้อ ลองคิดง่าย ๆ ว่า ถ้าเราขายสินค้าให้กับคนที่เขาไม่ต้องการ ต่อให้ทำวิธีการไหนเขาก็ไม่ซื้อ นอกจากเราจะเสียเวลาและงบประมาณทางการตลาดแล้ว เรายังสูญเสียโอกาสในการขายให้กลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายจริง ๆ ของเราอีกด้วย

สร้างคอนเทนต์ให้น่าสนใจ

หัวใจหลักอีกข้อหนึ่งของการขายออนไลน์ นั่นคือการทำคอนเทนต์ที่เป็นเครื่องมือให้ช่วยเร่งและกระตุ้นให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อสินค้า ไม่ว่าจะเป็นในรูปแบบของ คำบรรยาย รูปภาพ VDO การไลฟ์ สด ขายของ ที่ต้องมีความน่าสนใจ ทำให้มีคนติดตามและซื้อสินค้า ตัวอย่างการทำคอนเทนต์ที่เห็นได้อย่างชัดเจน เช่น การสร้างสตอรี่เล่าเรื่องของบริษัทขายประกัน ที่เขาสื่อสารเรื่องราวในรูปแบบของความรัก ความห่วงใยแทนการบอกว่าประกันดีอย่างไรแบบตรง ๆ โดยใช้เรื่องสั้นหรือเรื่องราวมาช่วยให้คนที่ดูอินไปกับเหตุการณ์ที่กำลังนำเสนอเป็นการชักจูงให้ซื้อประกัน วิธีนี้เป็นการจูงใจให้ซื้อประกันได้อย่างแนบเนียน

นอกจากหลักการที่กล่าวมาข้างต้น การขายออนไลน์ส่วนใหญ่แล้วมักจะตามกระแส หากเป็นสินค้าที่ขายตามกระแสได้ ก็อาจไม่ต้องพึงระวังอะไร ๆ มากนัก นอกจากเรื่องให้ระวังการกักตุนสต๊อกสินค้าที่อย่ามากเกินไปจนสุดท้ายขายออกไม่หมดจนทุนจม แต่ถ้าหากเป็นสินค้าที่มีราคาสูงและมีเอกลักษณ์เป็นของตัวเองอยู่แล้ว การขายตามกระแสอาจทำได้แค่บางครั้งบางคราวเท่านั้น อย่าให้กระแสเป็นหลักของการทำมาร์เก็ตติ้ง เพราะอาจทำให้คุณสูญเสียภาพลักษณ์ของแบรนด์ได้

ปรับตัวอย่างไรเมื่อการค้าขายอยู่ในโลกของออนไลน์

เริ่มทำการตลาดออนไลน์ ช่องทางไหนดี

เริ่มทำการตลาดออนไลน์ ช่องทางไหนดี

การทำให้ธุรกิจเติบโต หรือทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นในยุคนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ การทำการตลาดออนไลน์ แต่การทำการตลาดออนไลน์สามารถทำได้หลากหลายทางมาก ถ้าสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ หรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ควรเริ่มทำการตลาดออนไลน์จากช่องทางไหนดี วันนี้เรามีคำตอบ

ช่องทางการทำ การตลาดออนไลน์

เริ่มด้วยการทำ Search Engine Optimization (SEO) ซึ่งการทำ Search Engine Optimization (SEO) นั้นก็คือการทำให้เว็บไซต์ ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของ Search Engine เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น ซึ่งเราจะเน้นที่ Google ยิ่งถ้าทำให้อยู่ในหน้าแรกจะยิ่งดีมาก เพราะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ซึ่งการจะทำ SEO ให้ติดอันดับดี ๆ นั้น ต้องเริ่มด้วยการทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพ ให้ข้อมูลตรงกับคีย์เวิร์ด(Keywords) ที่คนมักค้นหา ซึ่งการจัดอันดับจะขึ้นกับระบบการจัดอันดับแสดงผลที่เรียกว่า ”Algorithm (อัลกอริทึม)” ซึ่งมีปัจจัยกว่า 100 ปัจจัยในการจัดอันดับ

ให้ความรู้ผ่าน Content การที่ทำให้เว็บไซต์ธุรกิจหรือเว็บไซต์ขายของจะติดตลาดนั้น ขึ้นกับจำนวนคนที่เข้ามาชม การให้ความรู้ผ่านการเขียนคอนเทนต์ลงในเว็บไซต์นั้นช่วยได้มาก เพราะเมื่อเป็นบทความให้ความรู้ที่โดนใจ เรามักจะส่งต่อหรือแชร์คนที่สนใจเหมือนกันในหมู่เพื่อนฝูงและครอบครัว คนรู้จัก ทำให้เพิ่มยอดคนที่สนใจเว็บไซต์เรามากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น และการทำ Content สามารถใส่ Keyword ที่เราต้องการได้ เพื่อให้ค้นหาเจอง่ายขึ้น และช่วยผลักดันอันดับSEO ของเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหาของ Google ด้วย ยิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัวเลยทีเดียว

แชร์ใน Social Media ยุคนี้ แทบจะหาคนที่ไม่เล่น Social Media ได้น้อยเต็มที ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, IG, Twitter เป็นต้น Social Media จะช่วยคุณได้มาก เพราะมีการแชร์ การโพสต์ ส่งต่อตลอดเวลา ทำให้เว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

การโฆษณา จาก 3 วิธีด้านบน เป็นการกระทำที่ไม่ต้องเสียเงิน แต่วิธีการโฆษณานี้ เหมาะสำหรับคนที่มีเงินทุนสำหรับส่วนนี้ของธุรกิจ หรือคนที่ธุรกิจเริ่มอยู่ตัว ได้กำไรพอสำหรับการลงทุนทำโฆษณา ก็สามารถซื้อโฆษณาไม่ว่าจะเป็น

Google: Google Ad Words

Facebook: Facebook Ads

Line: LINE Broadcast

Youtube: Youtube Video Adsช่องทางการทำ การตลาดออนไลน์

ส่วนมากจะใช้กับการโปรโมทระยะสั้น เช่น ช่วงเทศกาลสำคัญ ปีใหม่ วาเลนไทน์ เป็นต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามายังเว็บไซต์มากขึ้น

เมื่อเราสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับกลุ่มคนที่สนใจแล้ว เมื่อเกิดการพิจารณาและเลือกซื้อสินค้า ก็จะกลายเป็นลูกค้า เมื่อนั้นก็ต้องมีการดูแลและให้บริการที่ดี เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำหรือการโฆษณาแบบปากต่อปากให้กับธุรกิจต่อไป เราสามารถทำทั้ง 4 ช่องทางไปพร้อม ๆ กันได้เลย เชื่อว่าถ้ามีความพยายามและขยัน ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้แน่นอน

ไขข้อข้องใจ เทรนด์การตลาดออนไลน์แบบไหนกำลังมาแรงในปี 2020

เทรนด์การตลาดออนไลน์มาแรงในปี 2020

ต้องยอมรับว่าการตลาดออนไลน์เป็นหนึ่งในช่องทางโปรโมทแบรนด์ที่ได้รับความนิยมมากในปัจจุบัน เพราะนอกจากจะใช้ต้นทุนถูกกว่าการประชาสัมพันธ์ในโทรทัศน์ วิทยุ หรือการออกบูทตามงานต่าง ๆ แล้ว ยังเข้าถึงผู้ใช้อินเทอร์เน็ตได้ในวงกว้าง เนื่องจากคนส่วนใหญ่นิยมค้นหาข้อมูลต่าง ๆ ผ่านทาง Search Engine อย่าง Google, Bing, Yahoo, Baidu หรือ Ask ด้วยเหตุนี้ทำให้เจ้าของแบรนด์และนักการตลาดต่างพยายามงัดกลยุทธ์เด็ด ๆ ออกมา เพื่อทำให้เว็บไซต์สินค้าของตัวเองติดหน้าแรกเมื่อถูกค้นหาบน Search Engine เพราะฉะนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่เทรนด์การตลาดออนไลน์จะมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา แต่เทรนด์การตลาดออนไลน์แบบไหนกำลังมาแรงในปี 2020 บ้างนั้น มาดูกันเลย

เทรนด์การตลาดออนไลน์มาแรงในปี 2020

ยุคแห่งข้อมูลที่ถูกต้อง

สำหรับการทำการตลาดออนไลน์ที่ผ่านมามุ่งเน้นไปที่ปริมาณข้อมูล คำค้น และจำนวนบทความ แต่เทรนด์การตลาดออนไลน์ในปีนี้นักการตลาดต้องให้ความสำคัญกับคุณภาพของคอนเทนต์ที่ใช้เผยแพร่ลงในโลกอินเทอร์เน็ต ซึ่งคอนเทนต์ที่ดีต้องเป็นข้อมูลที่ถูกต้องและสามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง แต่ถึงอย่างนั้นก็ต้องระวังการเผยแพร่ข้อมูลเท็จจำพวกข่าวปลอมและข้อมูลส่วนตัวของผู้บริโภคด้วย เพราะถือว่าเป็นหนึ่งในหน้าที่ต่อการรับผิดชอบต่อสังคมด้วย

วิดีโอและข้อความ

แน่นอนว่าหลายคนอาจคุ้นชินกับการทำการตลาดด้วยคอนเทนต์หรือบทความแบบที่มีเรื่องราว ซึ่งสามารถโพสต์หรือแชร์ในสื่อสังคมออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram, Line หรือ Twitter ได้ แต่เมื่อพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลง ทำให้ความสนใจในคอนเทนต์ลดลง ทำให้อัตราการเปิดเข้าไปอ่านลดลงและหากไม่ใช่เรื่องที่ตัวเองสนใจหรือเป็นคอนเทนต์ที่ไม่ได้คุณภาพก็จะปิดลงทันที ดังนั้นการส่งวิดีโอหรือข้อความไปยังข้อความแชตจะช่วยกระตุ้นการรับรู้ ยอดขาย และตรงกลุ่มเป้าหมายลูกค้ามากขึ้น

ทำการตลาดออนไลน์ในหลาย ๆ ช่องทาง

หลายปีที่ผ่านมาเจ้าของแบรนด์ส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับสื่อโซเซียลอย่างเฟซบุ๊กมาเป็นอันดับหนึ่ง เหตุผลนั้นเป็นเฟซบุ๊กมีผู้ใช้งานเป็นจำนวนมากต่อเดือน แต่ในปี 2020 เจ้าของแบรนด์ไม่ควรมุ่งเป้าประชาสัมพันธ์ไปเพียงช่องทางเดียวเท่านั้น ในทางตรงกันข้ามควรทำการตลาดออนไลน์ผ่านช่องทางอื่น ๆ เช่น Google, Youtube, Instagram, Line, Twitter และ Tiktok เพื่อเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและกลุ่มลูกค้าใหม่มากยิ่งขึ้น

เทรนด์การตลาดออนไลน์มาแรงในปี 2020

เป็นอย่างไรบ้าง สำหรับเทรนด์การตลาดออนไลน์ที่กำลังมาแรงในปี 2020 ที่เรานำมาฝาก อย่างไรก็ตาม นอกจากการให้ความสำคัญกับประชาสัมพันธ์ผ่านช่องทางการตลาดออนไลน์แล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่เจ้าของแบรนด์ต้องให้ความสำคัญควบคู่กันไปคือ การตลาดแบบออฟไลน์หรือหน้าร้าน ซึ่งเป็นช่องทางหลักของลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ที่วอล์คอินเข้ามาในร้าน เพียงเท่านี้ก็จะช่วยให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น รักษาไว้ทั้งฐานลูกค้าเดิมและสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าใหม่ได้พร้อม ๆ กัน