7 ประเด็นสำคัญในการเริ่มต้นขายของออนไลน์

7 ประเด็นสำคัญในการเริ่มต้นขายของออนไลน์

1. กำหนดเป้าหมายและกลุ่มเป้าหมายของคุณ

-เป้าหมาย: คุณต้องการบรรลุผลอะไรจากการทำการตลาดออนไลน์? เป็นการรับรู้ถึงแบรนด์ การเข้าชมเว็บไซต์ โอกาสในการขาย การขาย หรืออย่างอื่นหรือไม่ การมีเป้าหมายที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณเลือกกลยุทธ์ที่เหมาะสมและวัดความสำเร็จของคุณได้

-กลุ่มเป้าหมาย: คุณกำลังพยายามเข้าถึงใครด้วยข้อความทางการตลาดของคุณ? การทำความเข้าใจข้อมูลประชากร ความสนใจ และพฤติกรรมออนไลน์เป็นสิ่งสำคัญสำหรับการสร้างเนื้อหาที่เกี่ยวข้องและตรงเป้าหมาย

2. สร้างสถานะออนไลน์ของคุณ

-เว็บไซต์: เว็บไซต์ของคุณคือฐานบ้านดิจิทัลของคุณ ตรวจสอบให้แน่ใจว่ามีลักษณะที่ดึงดูดสายตา ใช้งานง่าย และปรับให้เหมาะกับเครื่องมือค้นหา

-โซเชียลมีเดีย: เลือกแพลตฟอร์มที่กลุ่มเป้าหมายของคุณใช้เวลาและสร้างเนื้อหาที่น่าสนใจเพื่อเชื่อมต่อกับพวกเขา ตัวเลือกยอดนิยม ได้แก่ Facebook, Instagram, LinkedIn, Twitter, YouTube และ TikTok

3.การตลาดเนื้อหา

-สร้างเนื้อหาที่มีคุณค่า ให้ข้อมูล และน่าดึงดูดซึ่งโดนใจผู้ชมของคุณ นี่อาจเป็นบล็อกโพสต์ บทความ วิดีโอ อินโฟกราฟิก พอดแคสต์ หรือการอัปเดตโซเชียลมีเดีย

-สอดคล้องกับการสร้างเนื้อหาของคุณเพื่อสร้างความไว้วางใจและทำให้ผู้ชมของคุณกลับมาดูอีก

4.การเพิ่มประสิทธิภาพกลไกค้นหา (SEO)

-เพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์และเนื้อหาของคุณสำหรับคำหลักที่เกี่ยวข้องเพื่อปรับปรุงอันดับทั่วไปในผลการค้นหา สิ่งนี้จะช่วยเพิ่มการมองเห็นเว็บไซต์ของคุณและดึงดูดผู้มีโอกาสเป็นลูกค้า

5.การตลาดผ่านอีเมล

-สร้างรายชื่ออีเมลของสมาชิกที่สนใจผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณ จากนั้นคุณสามารถส่งอีเมลที่มีเป้าหมายพร้อมข้อเสนอส่งเสริมการขาย จดหมายข่าว หรือเนื้อหาด้านการศึกษาให้พวกเขาได้.

6.จ่ายค่าโฆษณา

-พิจารณาแพลตฟอร์มโฆษณาแบบชำระเงิน เช่น โฆษณา Google, โฆษณาบน Facebook หรือโฆษณา Instagram เพื่อเข้าถึงผู้ชมในวงกว้างขึ้นและบรรลุเป้าหมายเฉพาะ เช่น การเข้าชมเว็บไซต์หรือการสร้างลูกค้าเป้าหมาย เริ่มต้นด้วยงบประมาณเพียงเล็กน้อยและทดสอบเพื่อดูว่าอะไรดีที่สุดสำหรับคุณ

7.ติดตามและวิเคราะห์

-ใช้เครื่องมือวิเคราะห์เพื่อติดตามปริมาณการเข้าชมเว็บไซต์ของคุณ การมีส่วนร่วมบนโซเชียลมีเดีย อัตราการเปิดอีเมล และตัวชี้วัดสำคัญอื่นๆ ข้อมูลนี้จะช่วยให้คุณเข้าใจว่าสิ่งใดได้ผลและสิ่งใดต้องปรับปรุง

เคล็ดลับเพิ่มเติม

-ติดตามข่าวสารล่าสุด: แนวโน้มการตลาดออนไลน์มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว ดังนั้นรับทราบข้อมูลและปรับกลยุทธ์ของคุณให้เหมาะสม

-อดทน: การสร้างตัวตนทางการตลาดออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลาและความพยายาม อย่าท้อแท้ถ้าคุณไม่เห็นผลในชั่วข้ามคืน

-เรียนรู้จากผู้อื่น: อ่านบล็อก ดูบทแนะนำ และเข้าร่วมหลักสูตรออนไลน์เพื่อเรียนรู้จากนักการตลาดออนไลน์ที่มีประสบการณ์

ทดลองและสนุก! อย่ากลัวที่จะลองสิ่งใหม่ๆ และดูว่าอะไรโดนใจผู้ชม

โปรดจำไว้ว่า กลยุทธ์การตลาดออนไลน์ที่มีประสิทธิภาพสูงสุดนั้นขับเคลื่อนด้วยข้อมูล ปรับให้เหมาะกับผู้ชมของคุณ และปรับให้เหมาะสมอย่างสม่ำเสมอเพื่อผลลัพธ์ที่ดีขึ้น

วิธีการดึงดูดลูกค้าใหม่ ทำยังไงให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น

การเปิดกลุ่มลูกค้าใหม่เป็นเป้าหมายในใจของผู้ประกอบการที่ต้องการขยายฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างแน่นอน เพราะการมีลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติมเหมือนการการันตีว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้นและสร้างผลกำไรที่น่าชื่นใจให้กับบัญชีบริษัท แต่ว่าการตลาดแบบไหนล่ะที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามารู้จักกับแบรนด์มากขึ้น วันนี้จะพาทุกคนไปหาเทคนิคดี ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริงด้วยกัน

  1. ทำการตลาดออนไลน์

โซเชียลมีเดียเป็นเหมือนแหล่งรวมผู้คนมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ลูกค้าในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่ผู้คนที่อยู่ห่างไกลจะสามารถเข้าถึงธุรกิจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นควรทุ่มเทกับตลาดออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์ดี ๆ ในเพจอย่างสม่ำเสมอ หมั่นมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้ามาพูดคุยกับแบรนด์ รวมทั้งต้องหัดตามกระแส ทำคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จะได้รับความสนใจจากลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

  1. เริ่มต้นการแข่งขัน

การจัดการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลจะเป็นตัวดึงดูดให้คนที่ไม่รู้จักแบรนด์เข้ามาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์และช่วยกระจายเสียงเกี่ยวกับแบรนด์ให้คนทั่วไปรู้จักมากขึ้นด้วย ลองจัดการประกวดง่าย ๆ โดยให้รางวัลเป็นส่วนลด โปรโมชั่น หรือได้รับผลิตภัณฑ์ไปใช้ได้ฟรี จะทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจในตลาดมากขึ้น

  1. ทำกิจกรรมร่วมกับบริษัทอื่น

การร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทอื่นจะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของบริษัท และยังช่วยให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าของบริษัทหุ้นส่วนด้วย ดูตัวอย่างได้จากแบรนด์เครื่องสำอางที่ร่วมมือทำแพ็กเกจแบบพิเศษกับแบรนด์การ์ตูนที่มีชื่อเสียง เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าสาว ๆ ที่ชอบของน่ารัก จะเห็นว่าสินค้าจะได้รับความสนใจมากขึ้นและสามารถเปิดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้

  1. ใช้วิดีโอเป็นสื่อ

วิดีโอเป็นสื่อที่สื่อสารได้ง่ายและชัดเจน เหมาะกับการรีวิว สาธิต และให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ นับเป็นช่องทางการโฆษณาหลักในอนาคตเลย ดังนั้นธุรกิจควรจับคอนเทนต์ในวิดีโอเพื่อขยายลูกค้าไปยังกลุ่มที่ชอบดูคลิปสั้น ๆ บนอินเทอร์เน็ต และต้องใส่ใจกับการทำวิดีโอคอนเทนต์และพัฒนาเนื้อหาให้มีความทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ

  1. ให้โปรโมชั่นที่ปฏิเสธไม่ลง

การใช้โปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจเป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมตลอดการ เพราะจะช่วยลดความลังเลในการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ไม่เคยซื้อสินค้าของบริษัทมาก่อน โดยสามารถทำได้ด้วยการลดราคาหรือการให้สินค้าของแถม ทั้งหมดนี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และเมื่อลองใช้งานจริงจะหันมาเป็นลูกค้าประจำได้ไม่ยาก

เทคนิคทางการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เหล่านี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถดึงดูดลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการกำลังมีโครงการสร้างความน่าจดจำและเพิ่มการรับรู้ในตลาดเกี่ยวกับตัวแบรนด์ให้สูงขึ้น สามารถลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ได้เพื่อผลกำไรที่งอกงาม

วิธีการดึงดูดลูกค้าใหม่ ทำยังไงให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น

วิธีการดึงดูดลูกค้าใหม่ ทำยังไงให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น

การเปิดกลุ่มลูกค้าใหม่เป็นเป้าหมายในใจของผู้ประกอบการที่ต้องการขยายฐานธุรกิจให้เติบโตอย่างแน่นอน เพราะการมีลูกค้ากลุ่มใหม่เพิ่มเติมเหมือนการการันตีว่าผลประกอบการจะเพิ่มขึ้นและสร้างผลกำไรที่น่าชื่นใจให้กับบัญชีบริษัท แต่ว่าการตลาดแบบไหนล่ะที่จะสามารถดึงดูดลูกค้าใหม่ ๆ ให้เข้ามารู้จักกับแบรนด์มากขึ้น วันนี้จะพาทุกคนไปหาเทคนิคดี ๆ ที่สามารถนำไปใช้ในการทำงานได้จริงด้วยกัน

  1. ทำการตลาดออนไลน์

โซเชียลมีเดียเป็นเหมือนแหล่งรวมผู้คนมากมาย ไม่ใช่เพียงแค่ลูกค้าในละแวกใกล้เคียงเท่านั้น แต่ยังมีโอกาสที่ผู้คนที่อยู่ห่างไกลจะสามารถเข้าถึงธุรกิจได้ง่ายขึ้นอีกด้วย ดังนั้นควรทุ่มเทกับตลาดออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการสร้างคอนเทนต์ดี ๆ ในเพจอย่างสม่ำเสมอ หมั่นมีปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าที่เข้ามาพูดคุยกับแบรนด์ รวมทั้งต้องหัดตามกระแส ทำคอนเทนต์ที่สอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบัน จะได้รับความสนใจจากลูกค้าใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น

  1. เริ่มต้นการแข่งขัน

การจัดการแข่งขันเพื่อชิงรางวัลจะเป็นตัวดึงดูดให้คนที่ไม่รู้จักแบรนด์เข้ามาให้ความสนใจกับผลิตภัณฑ์ของบริษัทมากขึ้น นอกจากนั้นยังเป็นการช่วยประชาสัมพันธ์และช่วยกระจายเสียงเกี่ยวกับแบรนด์ให้คนทั่วไปรู้จักมากขึ้นด้วย ลองจัดการประกวดง่าย ๆ โดยให้รางวัลเป็นส่วนลด โปรโมชั่น หรือได้รับผลิตภัณฑ์ไปใช้ได้ฟรี จะทำให้แบรนด์ได้รับความสนใจในตลาดมากขึ้น

  1. ทำกิจกรรมร่วมกับบริษัทอื่น

การร่วมมือทางธุรกิจกับบริษัทอื่นจะช่วยเพิ่มความหลากหลายให้กับผลิตภัณฑ์และกิจกรรมของบริษัท และยังช่วยให้ได้รับความสนใจจากลูกค้าของบริษัทหุ้นส่วนด้วย ดูตัวอย่างได้จากแบรนด์เครื่องสำอางที่ร่วมมือทำแพ็กเกจแบบพิเศษกับแบรนด์การ์ตูนที่มีชื่อเสียง เพื่อดึงดูดกลุ่มลูกค้าสาว ๆ ที่ชอบของน่ารัก จะเห็นว่าสินค้าจะได้รับความสนใจมากขึ้นและสามารถเปิดกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ ได้

  1. ใช้วิดีโอเป็นสื่อ

วิดีโอเป็นสื่อที่สื่อสารได้ง่ายและชัดเจน เหมาะกับการรีวิว สาธิต และให้ข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจ นับเป็นช่องทางการโฆษณาหลักในอนาคตเลย ดังนั้นธุรกิจควรจับคอนเทนต์ในวิดีโอเพื่อขยายลูกค้าไปยังกลุ่มที่ชอบดูคลิปสั้น ๆ บนอินเทอร์เน็ต และต้องใส่ใจกับการทำวิดีโอคอนเทนต์และพัฒนาเนื้อหาให้มีความทันสมัยอย่างสม่ำเสมอ

  1. ให้โปรโมชั่นที่ปฏิเสธไม่ลง

การใช้โปรโมชั่นเพื่อดึงดูดใจเป็นเทคนิคที่ยอดเยี่ยมตลอดการ เพราะจะช่วยลดความลังเลในการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะในกลุ่มคนที่ไม่เคยซื้อสินค้าของบริษัทมาก่อน โดยสามารถทำได้ด้วยการลดราคาหรือการให้สินค้าของแถม ทั้งหมดนี้จะทำให้ลูกค้าเกิดความสนใจ และเมื่อลองใช้งานจริงจะหันมาเป็นลูกค้าประจำได้ไม่ยาก

เทคนิคทางการตลาดเพื่อขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ เหล่านี้ได้รับการพิสูจน์มาแล้วว่าสามารถดึงดูดลูกค้าเป้าหมายใหม่ ๆ ได้จริงอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนั้นถ้าผู้ประกอบการกำลังมีโครงการสร้างความน่าจดจำและเพิ่มการรับรู้ในตลาดเกี่ยวกับตัวแบรนด์ให้สูงขึ้น สามารถลองนำเทคนิคเหล่านี้ไปใช้ได้เพื่อผลกำไรที่งอกงาม

ทำความรู้จักกับการตลาดออนไลน์ ตัวช่วยเพิ่มยอดขายได้ง่าย ๆ

ทำความรู้จักกับการตลาดออนไลน์ ตัวช่วยเพิ่มยอดขายได้ง่าย ๆ

เมื่อพูดถึงการทำธุรกิจในยุคปัจจุบันที่ส่วนใหญ่อยู่บนโลก social media รวมไปถึงเว็บไซต์อย่าง e-commerce ซึ่งมีคู่แข่งทางธุรกิจเต็มไปหมด สินค้าหรือบริการที่ไม่มีความแตกต่างย่อมสร้างยอดขายได้ยาก ดังนั้นเพื่อให้สินค้าของคุณขายได้ จึงจำเป็นต้องใช้เทคนิคด้านการตลาดออนไลน์เข้ามา ซึ่งเทคนิคเหล่านี้ก็มีตั้งแต่เริ่มต้นทำเองได้ง่าย ๆ ไม่เสียค่าใช้จ่าย จนไปถึงการจ่ายเงินราคาแพงด้วย

ยิงแอดโฆษณาวิธีเบสิกที่สุดของการตลาดออนไลน์

การยิงแอดพบได้บ่อยสำหรับ Social Media ไม่ว่าจะเป็น Twitter, TikTok, Instagram รวมไปถึง Facebook หัวใจหลักของการตลาดดังกล่าว คือ “กำหนดเป้าหมาย และงบประมาณที่ยิงโฆษณา” เพราะ Social Media เหล่านี้ต้องคัดกรองเนื้อหาที่ใกล้เคียงกับไลฟ์สไตล์ในการรับชมกับกลุ่มผู้บริโภคแตกต่างกัน บนพื้นที่ที่จำกัด โดยการยิงโฆษณานี้ ผู้ใช้งานต้องกำหนดกลุ่มผู้รับชมตามข้อมูลส่วนบุคคล เช่น อายุ, เพศ, ที่อยู่ของผู้รับชมโฆษณา รวมทั้งความสนใจของผู้รับชมที่คาดว่าเกี่ยวข้องกับธุรกิจ อาทิ การเงิน การลงทุน เสื้อผ้า แฟชั่น และแน่นอนว่าหากใส่งบประมาณยิงโฆษณาไว้สูง ก็ยิ่งทำให้เพจ หรือคอนเทนต์ของคุณเป็นที่มองเห็นมากขึ้นเช่นกัน

สร้าง Video ก็ช่วยกระตุ้นยอดขายได้ด้วยเช่นกัน

ต้องยอมรับว่าปัจจุบันผู้คนนิยมเสพเนื้อหาเกี่ยวกับวิดีโอมากกว่าโพสข้อความยาว ๆ และ AI ก็นิยมดันคอนเทนต์วิดีโอให้ผู้ใช้ Social Media เห็นมากกว่าด้วย ทำให้โพสเนื้อหายาว ๆ โดนลดรีช และผู้ใช้งานมองไม่เห็นอีก ซึ่ง Video ที่ว่ามานี้ต้องมีความยาวสั้น ๆ พยายามไม่เกิน 3 นาที เพราะผู้ชมต้องการเสพเนื้อหาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่จะเลื่อนไปชมวิดีโอของเพจอื่น

SEO Content สำหรับสร้างเว็บไซต์ระยะยาว
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการทำเว็บไซต์ต้องมาคู่กับ SEO content ด้วยเสมอ เมื่อเปรียบเทียบเว็บไซต์ที่มีเนื้อหา SEO กับเว็บไซต์ที่มีแต่ข้อความขายสินค้า ก็พบว่าเว็บไซต์เนื้อหา SEO จะได้รับการติดอันดับหน้าแรกของ Google แบบทิ้งไม่เห็นฝุ่น เพราะของ AI ของ Google หาเว็บไซต์เจอตามคีย์เวิร์ดในเนื้อหา SEO ส่งผลให้ผู้ค้นหาเข้าเว็บไซต์เราได้ง่าย จนติดอันดับ Google ตามมา อย่างไรก็ตามการสร้างคอนเทนต์ SEO ผู้ทำเนื้อหาต้องมีองค์ความรู้พอสมควร สร้างเนื้อหาอันมีคุณภาพ และใช้ระยะเวลาในการทำ จนกว่าเว็บไซต์ของคุณจะติดอันดับหน้าหนึ่งของ Google ได้

Email Advertising 

การตลาดรูปแบบนี้เปรียบเสมือนดาบ 2 คม หากใช้ไม่ดีจะกลายเป็นโดนแบนเอาง่าย ๆ เนื่องจากการระดมส่งอีเมลโปรโมตสินค้ามาก ๆ ผู้รับอีเมลจะมองว่าคุณเป็นมิจฉาชีพ และสร้างความน่ารำคาญจนอีเมลคุณโดนบล็อก ซึ่งก่อนส่งอีเมล์ทำการตลาดทุกครั้ง ควรติดต่อกับเจ้าของอีเมลแต่แรก ๆ เพื่อให้ผู้รับอีเมลทราบว่าทำธุรกิจเกี่ยวกับอะไร และไม่ควรระดมส่งอีเมล์มากจนเกินความจำเป็น

จะเห็นได้ว่าการตลาดออนไลน์ มีการพัฒนามากขึ้น ตามเทคโนโลยีที่เปลี่ยนแปลงไป หากเปรียบเทียบกับ Facebook เราก็จะเห็นว่า ตอนนี้ลดยอดรีชของเพจลงไปมาก เน้นการยิงโฆษณามากขึ้น ดังนั้นหากขายของออนไลน์ จึงควรหมั่นศึกษา และติดตามเทรนด์การตลาดออนไลน์เป็นประจำ

ขายของออนไลน์ใน tiktok ยังไงให้ปัง!!

ขายของออนไลน์ใน tiktok ยังไงให้ปัง

การขายสินค้าออนไลน์บน TikTok อาจจะเป็นวิธีที่ดีที่สุดในตอนนี้ ของการได้รับความนิยมและเพิ่มยอดขายของคุณได้

1.ค้นหาเฉพาะของคุณ

กำหนดประเภทผลิตภัณฑ์ที่คุณต้องการขายและกลุ่มเป้าหมายของคุณคือใคร สิ่งสำคัญคือต้องมุ่งเน้นไปที่กลุ่มเฉพาะเพื่อดึงดูดลูกค้าที่เหมาะสมและสร้างเนื้อหาที่โดนใจพวกเขา

2.สร้างเนื้อหาที่น่าสนใจ

TikTok เป็นแพลตฟอร์มที่มีภาพสูง ดังนั้นตรวจสอบให้แน่ใจว่าเนื้อหาของคุณโดดเด่น สร้างวิดีโอที่น่าสนใจซึ่งเน้นผลิตภัณฑ์ของคุณด้วยวิธีที่ไม่เหมือนใครและสร้างสรรค์ ใช้คำบรรยายที่ติดหู เพลงที่กำลังมาแรง และฟีเจอร์ยอดนิยมของ TikTok 

3.คุณค่าของข้อเสนอ

นอกเหนือจากการโปรโมตผลิตภัณฑ์ของคุณแล้ว ให้คุณค่าแก่ผู้ชมของคุณด้วย แบ่งปันเคล็ดลับ บทช่วยสอน หรือฟุตเทจเบื้องหลังที่เกี่ยวข้องกับผลิตภัณฑ์หรืออุตสาหกรรมของคุณ สิ่งนี้จะช่วยสร้างความไว้วางใจและสร้างตัวคุณเองในฐานะผู้เชี่ยวชาญเฉพาะกลุ่มของคุณ

4.ใช้แฮชแท็กที่เกี่ยวข้อง

ใช้แฮชแท็กยอดนิยมและที่เกี่ยวข้องในคำบรรยายใต้ภาพ TikTok ของคุณเพื่อเพิ่มการค้นพบของคุณ ค้นหาแฮชแท็กที่กำลังมาแรงและรวมเข้ากับเนื้อหาของคุณ วิธีนี้จะช่วยให้วิดีโอของคุณปรากฏในผลการค้นหาและเข้าถึงผู้ชมได้กว้างขึ้น

5.มีส่วนร่วมกับผู้ชมของคุณ

ตอบกลับความคิดเห็น ข้อความโดยตรง และมีส่วนร่วมกับผู้ติดตามของคุณ การสร้างความสัมพันธ์กับผู้ชมจะช่วยสร้างฐานลูกค้าที่ภักดีและกระตุ้นให้พวกเขาแบ่งปันเนื้อหาของคุณกับผู้อื่น

โปรดจำไว้ว่าการสร้างธุรกิจออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จต้องใช้เวลาและความพยายาม มีความสอดคล้อง แท้จริง และตอบสนองต่อผู้ชมของคุณ แล้วคุณจะเพิ่มโอกาสในการได้รับความนิยมและขายสินค้าของคุณให้ประสบความสำเร็จบน TikTok

สุดยอดวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ปัง

สุดยอดวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ปัง

ในปัจจุบันถือได้ว่าการทำการตลาดออนไลน์ มีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะในปัจจุบันทุกคนนิยมใช้อินเทอร์เน็ตมากขึ้น การเข้าถึงผู้บริโภคในรูปแบบออนไลน์จึงเป็นสิ่งที่ง่าย และได้ผลลัพธ์ที่ดี ถือได้ว่าเป็นการประหยัดทั้งเงินและเวลาได้อีกด้วย วันนี้จึงได้รวบรวมสุดยอดวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ปัง รับรองว่าได้ผลทุกวิธีแน่นอนค่ะ

สุดยอดวิธีการทำการตลาดออนไลน์ให้ปัง

1. ต้องหาลูกค้าให้ตรงเป้า หรือกลุ่มตามที่เราต้องการ

การทำการตลาดออนไลน์จะต้องมุ่งไปที่ลูกค้าให้ตรงเป้า เพื่อจะได้ทำให้ไม่เสียเวลา จะต้องรู้ว่าลูกค้าที่ต้องการเป็นใคร ลูกค้าต้องการอะไร และนิยมใช้สื่อออนไลน์ช่องทางไหน ซึ่งการที่เรารู้คุณสมบัติของลูกค้าเหล่านี้จะทำให้เราประหยัดทั้งเงิน และเวลา เช่น อายุของลูกค้า ความชอบของคนอายุเท่านี้ และช่วงอายุนี้นิยมใช้สื่อประเภทอะไร

2. การสร้างคอนเทนต์ให้ตรงกับความต้องการ

จะต้องสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพที่จะช่วยประหยัดทั้งเงินและเวลา เพิ่มการหาวิธีผู้ติดตามให้มากขึ้น โดยใช้คอนเทนต์ที่น่าสนใจ หรือการโปรโมทคอนเทนต์ที่มีคุณภาพ เช่น การส่งอีเมล์คอนเทนต์ไปให้กับกลุ่มผู้ติดตาม ซึ่งวิธีนี้หากเป็นการเพิ่มยอดผู้ติดตามให้กับเพจของเราก็เป็นได้ แถมยังเป็นการประหยัดเงินในกระเป๋าได้มากๆ อีกด้วย

3. การส่งสินค้าทดลองไปให้กับบุคคลที่ผู้ติดตามจำนวนมาก

วิธีนี้ถือเป็นอีกวิธีหนึ่งที่ได้ผลดี และเราจะให้เห็นบุคคลเหล่านี้มักจะรีวิวสินค้าอยู่เสมอ แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือเราจะต้องเลือกบุคคลที่มีความเหมาะสมกับสินค้าของเรา เช่น หากเราเป็นสินค้าด้านความสวยงาม เราก็ควรเลือกตัวแทนที่มีชื่อเสียงทางด้านความสวยงาม หรือหากเราเป็นสินค้าประเภทอาหาร ก็ควรเลือกตัวแทนที่มีชื่อเสียงทางด้านอาหาร

4. การทำให้ลูกค้ารัก โดยใช้เทคนิคการโต้ตอบลูกค้าแบบเป็นการส่วนตัว

วิธีนี้ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่เดียว การสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าซึ่งจะช่วยสร้างคุณค่า และความน่าเชื่อถือให้กับเเบรนด์ของเรา ถือว่าเป็นวิธีที่ได้ผลดีที่เดียว แถมยังเป็นวิธีที่ประหยัดมากๆแทบจะไม่ต้องเสียอะไรเลย เช่นเราสามารถตอบลูกค้าทางแชทไลน์ด้วยตัวเอง หรือการ live สดเพื่อพูดคุยกับลูกค้า หรือการตอบกลับ Facebook ด้วยตนเอง ถือว่าเป็นการสร้างความประทับใจให้กับลูกค้าได้ดีอีกวิธีหนึ่ง แถมยังถือได้ว่าเป็นการสร้างความคุ้นเคยกับลูกค้าและให้กับมาใช้ผลิตภัณฑ์ของเราได้ดีอีกวิธีหนึ่ง

5. การกำหนด Promotion

การกำหนด Promotion ถือเป็นการเพิ่มยอดขายได้ดีในอีกวิธีหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม Promotion ก็ไม่ควรทำบ่อยจนเกินไป เพราะจะทำให้ ลูกค้าไม่อยากซื้อสินค้าตอนที่ไม่มี Promotion แต่จะรอจนกว่าแบรนด์จัด Promotion ถึงจะซื้อ ซึ่งอาจเกิดผลเสียกับเราได้

รวม 3 เหตุผล ทำไมต้องทำ การตลาดออนไลน์ และมีช่องทางใดบ้าง

การตลาดออนไลน์

เพื่อให้แบรนด์ของคุณประสบความสำเร็จจะต้องมีการวางแผนการตลาดออนไลน์ เพราะถือเป็นช่องทางที่ทำให้ธุรกิจของคุณเข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคได้ตรงจุด และมีพลังมหาศาลในการโฆษณาประชาสัมพันธ์ โดยการกระจายการมองเห็นด้วยเทคนิคต่าง ๆ ให้กว้างขวาง จึงทำให้เวลานี้ใคร ๆ ก็ต่างใช้ช่องทางนี้ในการเพิ่มยอดขาย 

การตลาดออนไลน์ (Online Marketing) สำคัญอย่างไร ทำไมต้องทำ 

1. กลุ่มเป้าหมายมีจำนวนเยอะแค่ไหนก็สามารถเข้าถึงได้

ความสามารถของสื่อออนไลน์ ทำให้คนจำนวนมากให้ความสำคัญกับการตลาดออนไลน์ เพราะได้มีการนำเทคโนโลยี AI  เข้ามาเป็นตัวจับความต้องการของเหล่าผู้คนที่เข้ามาใช้เว็บไซต์ต่าง ๆ ไม่ว่าคุณต้องการอะไร เช่น ครีมบำรุงผิว อาหารเสริม เสื้อผ้า กระเป๋า รองเท้า เป็นต้น เจ้าโปรแกรมนี้สามารถรู้ได้ทั้งหมด ฉะนั้นเมื่อเจ้าของแบรนด์ได้ทำโฆษณาจึงตอบโจทย์ได้ตรงตามความต้องการและตรงกลุ่มเป้าหมาย

  2.การนำเสนอมีความหลากหลาย ครีเอทได้แบบไร้ขีดจำกัด 

โดยคุณสามารถเลือกได้ว่าจะนำเสนอคอนเทนต์ออกมาเป็นภาพเคลื่อนไหวหรือภาพนิ่ง โดยเฉพาะภาพเคลื่อนไหวหรือวีดีโอพรีเซ้นต์ดูจะเป็นสื่อประเภทที่สามารถดึงดูดความสนใจผู้บริโภคในสื่อโซเชียลมีเดียต่าง ๆ ได้มากทีเดียว

  3. มีความแม่นยำและน่าเชื่อถือ

การทำการตลาดออนไลน์ทำให้สามารถตรวจจับข้อมูลลูกค้าที่เข้ามาเยี่ยมชมได้ เช่น การทำโฆษณาโปรโมทสินค้ากับเฟสบุ๊ค วัดผลได้จากยอดขายและผู้เข้าชมหรือจะเป็นการโปรโมทสินค้าผ่านทาง TikTok สามรถทราบจำนวนผู้เข้าชมได้และผลลัพธ์ที่ตามมาคือผู้บริโภคตัดสินใจซื้อง่ายขึ้น แน่นอนว่าส่งผลให้เจ้าของแบรนด์ทราบถึงต้นทุนผลกำไรที่ทำการตลาดไปว่าคุ้มค่าหรือไม่ นำไปสู่การพัฒนาการประชาสัมพันธ์

4.ผู้บริโภคสามารถหาข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อสินค้าได้ทันทีหรือที่เรียกว่าการสื่อสารสองทาง

การตลาดออนไลน์ทำให้ผู้ซื้อตัดสินใจง่ายขึ้นและเร็ว เพราะสามารถหาข้อมูลการรีวิวสินค้าต่าง ๆ ประกอบการตัดสินใจไม่ว่าจะเป็นวีดีโอ ภาพประกอบการเล่าถึงประสบการณ์การใช้ เหล่านี้ช่วยให้ลูกค้าไม่จำเป็นต้องรอแอดมินมาตอบเลย

5 ช่องทางทำการตลาดออนไลน์ (Online Marketing) นิยมมากที่สุด

1. SEO (Search Engine Optimization) คือ ช่องทางโปรโมทฟรีผ่านการนำเสนอเนื้อหาที่ใช้คีย์เวิร์ดหรือที่เรียกว่าคำที่มีการค้นหามากที่สุดในกูเกิ้ลมาใช้เพื่อให้เว็บเป็นที่รู้จัก

2. Google Ads (Google AdWords) ที่เรียกกันว่า SEM (Search Engine Marketing) เป็นการโปรโมทที่มีค่าใช้จ่าย โอกาสเข้าถึงลูกค้าสูงมากทีเดียว

3. SMM (Social Media Marketing) การทำการตลาดบนสื่อออนไลน์อย่าง Facebook, Instagram, YouTube สามารถให้ทั้งข้อมูลโต้ตอบและประชาสัมพันธ์สินค้าได้ในเวลาเดียวกัน 

  4. Video Marketing เป็นรูปแบบการโปรโมทที่ได้รับความสนใจจากผู้บริโภคอย่างมากและสามารถดึงดูดให้ผู้บริโภคเกิดการตัดสินใจซื้อได้ง่ายมากขึ้น

  5. Influencer Marketing เป็นการนำผู้มีชื่อเสียงมาทำการโปรโมทสินค้า ซึ่งอาศัยยอดผู้ติดตามของบุคลเหล่านั้น จึงสามารถกระตุ้นยอดขายได้มากทีเดียว 

การตลาดออนไลน์ เป็นสื่อที่สามารถทำให้ทุกคนประสบความสำเร็จทางด้านการขายได้ไม่ยาก เพียงแต่ต้องศึกษาทำความเข้าใจและใช้อย่างถูกวิธี จะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตได้อย่างแน่นอน

การตลาดออนไลน์ สำคัญกับแบรนด์น้องใหม่ยังไงบ้าง

การตลาดออนไลน์ สำคัญกับแบรนด์น้องใหม่ยังไงบ้าง

ในโลกยุคใหม่ การนำเทคโนโลยีมาใช้เพื่อเข้าถึงลูกค้ากลุ่มเป้าหมายนับเป็นเรื่องจำเป็น การแข่งขันบนโลกออนไลน์ที่กว้างใหญ่และขยายไปอย่างไม่มีที่สิ้นสุดนับเป็นหนึ่งในเรื่องท้าทายที่แบรนด์น้องใหม่ต้องเผชิญ แต่หากมีการวางแผนที่ดี และทำการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ การจะประสบความสำเร็จในตลาดและได้โอกาสใหม่ ๆ ทางธุรกิจจะเป็นเรื่องง่ายดาย โดยเจ้าของแบรนด์น้องใหม่จะเห็นความสำคัญของการตลาดออนไลน์ได้เด่นชัดขึ้นจากทั้ง 4 แง่มุมต่อไปนี้

  1. สร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่ง

ในปัจจุบันลูกค้าให้ความไว้วางใจกับแบรนด์ที่มีความน่าเชื่อถือและนำเสนอการบริการที่คุ้มค่าและมีการออกแบบมาอย่างเฉพาะตัว ดังนั้นการสร้างแบรนด์ให้มีความแข็งแกร่งและเป็นที่รู้จักจึงเป็นเรื่องสำคัญสำหรับแบรนด์ที่เพิ่งก้าวเข้าสู่ตลาด ซึ่งโลกออนไลน์มอบโอกาสและเครื่องมือที่หลากหลายไร้ขีดจำกัดให้ธุรกิจสามารถสร้างภาพลักษณ์ที่ต้องการได้อย่างอิสระ แถมยังใช้งบประมาณน้อยกว่าการประชาสัมพันธ์ในโลกจริงอีกด้วย

  1. เพิ่มโอกาสเข้าถึงลูกค้าที่มากกว่าบนออนไลน์

หากจะพึ่งพาแค่ลูกค้าที่เดินผ่านมาเจอร้านหรือสินค้าด้วยตัวเองในโลกจริงเพียงอย่างเดียว จะเป็นการเสียโอกาสทางธุรกิจครั้งใหญ่ไปในทันที เพราะแท้จริงแล้วยังมีลูกค้าอีกมากมายที่โลดแล่นอยู่บนโลกออนไลน์ เจ้าของแบรนด์ต้องเปิดโอกาสให้การเข้าถึงลูกค้าสามารถทำได้กว้างขวางมากขึ้น ต้องใส่ใจกับการตลาดออนไลน์ เช่น การทำ SEO การทำวิดีโอโปรโมทบนโซเชียลมีเดีย ทั้งหมดนี้จะทำให้ได้ปริมาณยอดขายที่ใหญ่กว่าเดิมแน่นอน

  1. สื่อสารกับลูกค้าได้ดียิ่งขึ้น

การตลาดออนไลน์เป็นการเพิ่มช่องทางในการสื่อสารกับลูกค้า เพราะลูกค้าไม่จำเป็นต้องเดินทางมาที่ร้านแต่สามารถพูดคุย ถามคำถาม หรือหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้ดียิ่งขึ้น ทำให้แบรนด์สามารถสื่อสารกับลูกค้าได้โดยตรง ซึ่งทั้งหมดนี้จะนำไปสู่ความสบายใจและไว้วางใจ และจะทำให้การปิดการขายทำได้ง่ายยิ่งขึ้น

  1. เก็บข้อมูลสถิติทางธุรกิจได้อย่างชัดเจน

การทำการตลาดออนไลน์จะมีการวัดผลและรายงานผลทางสถิติอย่างชัดเจน เช่น ตัวเลขยอดขาย ยอดรีวิวหรือยอดชมสินค้า และอันดับ SEO ทั้งหมดนี้จะช่วยให้แบรนด์ที่เพิ่งเริ่มทำการตลาดเห็นภาพรวมของพัฒนาการทางธุรกิจมากยิ่งขึ้น เห็นพฤติกรรมของลูกค้า ทำให้การวางแผนยุทธศาสตร์การบริหารธุรกิจทำได้อย่างเข้มแข็งและจริงจัง และจะส่งผลดีกับอนาคตของแบรนด์อย่างแน่นอน

จะเห็นได้จากแง่มุมทั้ง 4 ข้อที่รวบรวมมาว่าการตลาดออนไลน์มีความสำคัญกับการเริ่มต้นทำธุรกิจขนาดไหน ดังนั้นแบรนด์น้องใหม่ห้ามมองข้ามและปล่อยผ่านการทำการตลาดออนไลน์โดยเด็ดขาด เพราะทั้งหมดนั้นอาจหมายถึงการสูญเสียผลประโยชน์มหาศาลไปอย่างน่าเสียดาย แต่ทุกแบรนด์ควรใส่ใจและให้ความสำคัญ เพราะการลงทุนกับการตลาดออนไลน์ แม้จะใช้งบไม่มาก แต่สามารถคาดการณ์ผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ที่อาจเปลี่ยนแปลงหน้าประวัติศาสตร์ของ   แบรนด์ได้เลยทีเดียว

ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ ให้ธุรกิจปัง

ช่องทางการทำการตลาดออนไลน์ ให้ธุรกิจปัง

การใช้เวลาอยู่บนโลกออนไลน์ของคนรุ่นใหม่กำลังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในตอนนี้สื่อออนไลน์สามารถเข้าถึงได้จากหลากหลายช่องทางบนทุกพื้นที่ของโลก จึงนับว่าเป็นตลาดที่ใหญ่ที่สุดในโลกได้เลยทีเดียว ดังนั้นธุรกิจทั้งหลายต้องมีการปรับตัวและหันมาใช้กลยุทธ์ทางการตลาดออนไลน์มากขึ้น ว่าแต่มีช่องทางออนไลน์ไหนบ้างที่สามารถใช้ในการประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการ วันนี้จะพาไปดู 6 ช่องทางการตลาดออนไลน์พื้นฐานที่น่าสนใจกัน

  1. การทำ SEO (Search Engine Optimization)

วิธีนี้เป็นการตลาดดิจิทัลที่ทำให้เว็บไซต์ธุรกิจของเราติดอันดับต้น ๆ ในการค้นหา Keyword ต่าง ๆ บน Google วิธีนี้เป็นการปรับแต่งเว็บไซต์ให้มีเนื้อหาและคุณภาพสอดคล้องกับเกณฑ์ในการให้คะแนนเว็บไซต์ รวมทั้งการสร้างลิงค์ที่มีคุณภาพมาสู่เว็บไซต์ธุรกิจ วิธีการนี้จะช่วยเพื่อเพิ่มยอดผู้ชมและเพิ่มโอกาสในการขายสินค้าและบริการนั่นเอง 

  1. ใช้โซเชียลมีเดียให้เกิดประโยชน์ (Social Media Marketing)

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อต่างใช้โซเชียลมีเดียหลายช่องทางในชีวิตประจำวัน เช่น การใช้ Facebook การอัปโหลดภาพลงบน Instagram หรือการลงวิดีโอบน TikTok การใช้สื่อเหล่านี้ในการประชาสัมพันธ์จึงเป็นประโยชน์กับธุรกิจอย่างมาก ตัวแบรนด์จึงควรสร้างโซเชียลเหล่านี้เพื่อโปรโมทธุรกิจของตนเองเช่นกัน

  1. ขายสินค้าหรือบริการผ่านเหล่าคนดัง (Influencer Marketing)

อินฟลูเอนเซอร์เป็นกลุ่มคนที่มีผู้ติดตามมากกว่าผู้ใช้โซเชียลมีเดียทั่วไป ดังนั้นการจ้างกลุ่มคนเหล่านี้เพื่อประชาสัมพันธ์แบรนด์สินค้าเป็นอีกทางเลือกในการเข้าถึงผู้บริโภคจำนวนมาก โดยแบรนด์ต้องมีการเลือกคนดังที่มีสไตล์สอดคล้องกับแบรนด์ มีผู้ติดตามที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย และช่วยสร้างภาพลักษณ์ของสินค้าให้ดูดีและน่าเชื่อถือ

  1. ทำธุรกิจให้ปังผ่านทางอีเมล (Email Marketing)

อีเมลเป็นช่องทางติดต่อสื่อสารที่เป็นพื้นฐานที่สามารถส่งข้อความ รูปภาพ วิดีโอ หรือข้อมูลต่าง ๆ โดยการแนบไฟล์หรือลิงค์ ทำให้ข้อมูลต่าง ๆ ถึงมือผู้บริโภคได้อย่างรวดเร็ว ในปัจจุบันกลุ่มลูกค้าที่เป็นเป้าหมายเป็นจำนวนมากนิยมเช็คอีเมลของตัวเองทุกวัน การส่งอีเมลเพื่อประชาสัมพันธ์ธุรกิจจึงเป็นโอกาสในการทำการตลาดออนไลน์ที่ยอดเยี่ยม

  1. การวางแบนเนอร์บนเว็บไซต์ (Banner Marketing)

การวางภาพโฆษณาเป็นแบนเนอร์บนเว็บไซต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเป็นอีกช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้า โดยต้องเลือกเว็บไซต์ในการโฆษณาที่เกี่ยวข้องกับแบรนด์ เช่น การวางแบนเนอร์โฆษณาประกันเดินทางบนเว็บไซต์เกี่ยวกับการท่องเที่ยว จะเห็นว่าลูกค้าของบริษัทท่องเที่ยวจะมีโอกาสสนใจประกันเดินทางเป็นจำนวนมาก วิธีนี้จึงเป็นการประชาสัมพันธ์ที่ตรงจุดอย่างมาก

  1. ทำคอนเทนต์ให้ปัง (Content Marketing)

การทำคอนเทนต์ทางออนไลน์เป็นการบอกเล่าเรื่องราวของแบรนด์ธุรกิจผ่านตัวอักษร รูปภาพหรือวิดีโอ เพื่อให้ผู้คนรู้จักสินค้าของเรามากขึ้น โดยคอนเทนต์ที่สร้างขึ้นต้องมีความน่าสนใจ ดึงดูดใจ จนนำไปสู่การซื้อสินค้าหรือบริการในที่สุด นอกจากนั้นการทำคอนเทนต์ให้ทันสมัย อัปโหลดในเวลาที่ถูกที่ควรล้วนเป็นสิ่งสำคัญไม่แพ้กัน

ทั้งหมดนี้เป็นช่องทางการตลาดออนไลน์ที่เจ้าของกิจการทุกคนควรรีบเข้าไปคว้าโอกาสในการขาย นับเป็นเพิ่มช่องทางในการเข้าถึงลูกค้าที่หลากหลายและตรงจุดอย่างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งเป็นการเพิ่มโอกาสทางการแข่งขันบนโลกธุรกิจของตัวเอง และสร้างภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้แข็งแกร่งและน่าสนใจ เจ้าของธุรกิจท่านไหน ยังไม่เริ่มทำการตลาดบนช่องทางเหล่านี้สามารถเริ่มต้นลงมือทำได้ในทันที แล้วธุรกิจของคุณจะก้าวหน้าอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน