เครื่องมือ การตลาดออนไลน์ ใช้เมื่อไร ยอดขายปังมาก

เครื่องมือ การตลาดออนไลน์ ใช้เมื่อไร ยอดขายปังมาก

เมื่อเทรนเปลี่ยนการตลาดก็ต้องเปลี่ยน โดยเฉพาะ การตลาดออนไลน์ ที่ผู้ประกอบการจะต้องเรียนรู้และเข้าใจเกี่ยวกับเทรนด์และพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป รวมถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีต่าง ๆ ที่นำมาใช้เกี่ยวกับการตลาดในปัจจุบันให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคได้ เพราะหากตามไม่ทันก็อาจจะ Out ก็เป้นได้ โดยในวันนี้จะมาแนะนำ 5 เครื่อง สำหรับการตลาดออนไลน์ ถ้าหากคุณประสบความสำเร็จก็จะช่วยให้ยอดขายของคุณปังมากยิ่งขึ้น

SEO

การทำ SEO ไม่เพียงแต่ต้องทำเฉพาะเว็บไซต์เท่านั้น แต่สามารถที่จะทำผ่าน Youtube, Facebook, Tiktok ได้ ขึ้นอยู่กับคนทำ SEO ว่ามีความสามารถเพียงใดในการที่จะทำให้แอปพลิเคชันออนไลน์เหล่านั้น สามารถเข้าถึงและติดอันดับในการค้นหาของ Search Engine ได้

การยิง Ads

การยิง Ads อาจเป็นตัวเลือกในลำดับท้าย ๆ เพราะจะต้องใช้เงินลงทุน ซึ่งการยิง Ads เป็นการเร่งความสำเร็จให้เร็ว แต่อาจต้องใช้เงินทุนมหาศาล เพราะไม่เพียงแต่ยิง Ads ผ่านสื่อออนไลน์เพียงช่องทางเดียวเท่านั้น แต่ต้องซื้อ Ads ผ่านหลาย ๆ แอปพลิเคชันด้วย จึงจะเห็นผลสำเร็จได้ไม่ยาก เช่น Google Ads, Facebook Ads, Tiktok Ads หรือแม้แต่การซื้อโฆษณาผ่าน Youtube ด้วย จึงเหมาะกับผู้ประกอบการที่มีทุนหนาและต้องการให้สินค้าติดตลาดได้อย่างรวดเร็วนั่นเอง

การสร้าง Content

การสร้าง Content เป็นหนึ่งในช่องทางที่สามารถประชาสัมพันธ์ให้คนได้รู้จักกับแบรนด์มากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะ Content ที่มีสาระและความบันเทิง เพราะจะทำให้คนจดจำชื่อแบรนด์ได้ง่าย ซึ่งการทำ Content ก็จะแบ่งออกเป็น บทความ คลิปวีดีโอ รูปภาพหรือแคปชั่น ที่สามารถจะสื่อสารออกไปบนโลกออนไลน์ได้

E-mail และ SMS Marketing

การตลาดด้วยการโฆษณาผ่าน E-mail และ SMS ยังคงสามารถใช้งานได้ในปัจจุบัน พร้อมทั้งยังแจ้งข้อมูล ข้าวสารและโปรโมชันให้ผู้รับได้เกิดแรงกระตุ้นในการเปิดหรือเข้าถึงลิงก์ข้อความที่ส่งไปในเมล์ได้ นอกจากนี้การทำการตลาดแบบนี้ยังสามารถเก็บข้อมูลของลูกค้าได้อีกด้วย

Influencer

การเลือกใช้บริการของ Influencer เป็นที่นิยมมากในปัจจุบัน เพราะสามารถที่จะให้คนมองเห็นสินค้าได้ง่าย ช่วงแรกอาจจะเน้นไปที่การให้ Influencer เหล่านั้นได้ทดลองใช้สินค้าจริงเพื่อความน่าเชื่อถือและแสดงให้เห็นว่าคนที่เขาติดตามใช้สินค้าตัวนี้จริงและเห็นผลจริง จึงเกิดการใช้สินค้าตาม นับเป็นกลยุทธ์ที่สามารถใช้งานได้จริงและเหมาะมากในช่วงตลาดออนไลน์แบบนี้

เป็นอย่างไรกันบ้างกับ 5 เครื่องมือสำหรับการทำการตลาดออนไลน์ ที่เชื่อได้เลยว่าหลายคนกำลังมองหาและต้องการเครื่องมือเหล่านี้อยู่ แต่บอกได้เลยว่าแม้จะมีเครื่องมือที่ดีอยู่ในมือ หากใช้งานไม่เป็นก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้ ดังนั้น ควรศึกษาเครื่องมือให้เข้าใจและนำไปใช้ที่ละอย่าง ก่อนที่จะบันทึกผลตอบรับจากเครื่องมือในแต่ละแบบ เพราะไม่อย่างนั้น อาจไม่สามารถบอกได้เลยว่า สินค้าของคุณมาจากเครื่องมือใดมากที่สุด เพราะจะต้องนำเอาข้อมูลเหล่านั้นมาวิเคราะห์เพื่อขยายผลในการทำการตลาดออนไลน์ต่อไปในอนาคต

3 เทคนิคที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้

3 เทคนิคที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้

ต้องยอมรับว่าท่ามกลางภาวะเศรษฐกิจตกต่ำที่ทั่วโลกกำลังเผชิญ บวกกับปัจจัยความเสียหายจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทำให้การตลาดออนไลน์ (Online marketing) เติบโตขึ้นแบบทวีคูณ ท่ามกลางคู่แข่งทางการตลาดที่เพิ่มมากขึ้นด้วย เนื่องจากธุรกิจเกิดใหม่ และธุรกิจดั้งเดิมอีกเป็นจำนวนมากหันมาใช้แพลตฟอร์มออนไลน์ อย่าง Google และ Facebook เพื่อส่งเสริมการทำประชาสัมพันธ์และการตลาดออนไลน์อย่างเติมรูปแบบมากขึ้นกว่าเดิม ดังนั้นวันนี้เรานำ 3 เทคนิคที่นักการตลาดออนไลน์ควรรู้ มาฝากกัน

เพราะ Google ได้รับการพัฒนาให้ฉลาดขึ้นกว่าเดิม โดยเฉพาะโปรแกรมสำหรับตรวจจับเว็บไซต์นั่นคือสิ่งสำคัญที่ตอกย้ำให้นักการตลาดพึงระมัดระวังมากขึ้น และพยายามคิดค้นกลยุทธ์การทำงานให้สอดคล้องกับการพัฒนาของGoogle และช่วยส่งเสริมคุณภาพของเว็บไซต์ เพราะเว็บไซต์คุณภาพสูงจะได้รับการจัดอันดับที่ดีมากกว่าในระบบการค้นหาของ Google

เพื่อให้แผนการตลาดมีความทันสมัยและตรงกับใจของกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุด นักการตลาด (Online marketing) ควรพิจารณา ดังต่อไปนี้

1.การกำหนดกลุ่มเป้าหมายที่ชัดเจนในการเข้าถึง และเก็บรวบรวมข้อมูลพื้นฐาน เช่น เพศ วัย ที่อยู่ การศึกษา สถานที่ทำงาน และไลฟ์สไตล์ เพื่อเตรียมพร้อมเนื้อหาหรือ Content ที่จะเสนอในเพจหรือบทความ ให้มีความกระชับ น่าอ่าน อ่านแล้วเข้าใจได้ทันที เพราะมันเป็นกฎที่ตายตัวว่า เนื้อหาที่ดีย่อมดึงดูดความสนใจให้คนติดตาม และยังช่วยเพิ่มคะแนนความน่าเชื่อถือให้กับเพจ ตลอดจนสินค้าและบริการนั้น ๆ ได้อีกทางหนึ่งด้วย

2.สังเกต ทำความเข้าใจ เพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลและวิเคราะห์พฤติกรรมของกลุ่มเป้าหมาย ทั้งแบบ offline และ online เช่น เวลาว่างชอบทำอะไร ชอบแต่งตัวแนวไหน งานอดิเรกคืออะไร ชอบเดินห้างหรือช้อปปิ้งทางโซเชียล นิยมใช้แอปอะไร ตลอดจนเหตุผลในการตัดสินใจซื้อสินค้าแต่ละครั้ง

3.ปรับปรุงและพัฒนาเว็บไซต์ให้สวยงามและใช้งานง่าย เพื่อรองรับการใช้งานผ่านแอปพลิเคชันต่าง ๆ บนมือถือ ที่สามารถตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้อย่างทันท่วงทีและตรงกลุ่มเป้าหมายมากที่สุด เพราะการเข้าถึงเว็บไซต์ด้วยมือถือได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ก็จะยิ่งช่วยเพิ่มการตัดสินใจซื้อ และเพิ่มยอดขายได้มากขึ้นตามไปด้วย

ทั้งนี้เพราะในปัจจุบันมากกว่า 80 เปอร์เซนต์ของคนส่วนใหญ่ใช้เวลาอยู่บนโลกเสมือนจริงอย่าง ดูข่าวฟุตบอล Facebook Line และ Youtube หรือช่องทาง Social Media อื่น ๆ เพื่อความบันเทิงและการค้นหาสินค้าและบริการ ดังนั้นการเก็บข้อมูลนำมาวิเคราะห์เพื่อวางแผนกลยุทธ์ในการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Social Media จะช่วยให้นักการตลาดออนไลน์นำพาเว็บไซต์และธุรกิจเหล่านั้นให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมายและก้าวไปสู่ความนิยมของกลุ่มเป้าหมายที่ต้องการได้อย่างมีประสิทธิภาพ และในระยะยาวยังสามารถนำกลยุทธ์ทางการตลาดมาประยุกต์ใช้ร่วมกับการทำ SEO หรือ Search Engine Optimization เพื่อช่วยให้เว็บไซต์ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของ Google โดยใช้เทคนิคในการปรับแต่งและเพิ่มลิงก์ที่มีคุณภาพมาที่เว็บไซต์ ซึ่งผลที่จะได้รับคือปริมาณผู้ชมจำนวนมากและการเติบโตของยอดขาย

เริ่มทำการตลาดออนไลน์ ช่องทางไหนดี

เริ่มทำการตลาดออนไลน์ ช่องทางไหนดี

การทำให้ธุรกิจเติบโต หรือทำให้ยอดขายเพิ่มมากขึ้นในยุคนี้ สิ่งสำคัญที่ต้องมีคือ การทำการตลาดออนไลน์ แต่การทำการตลาดออนไลน์สามารถทำได้หลากหลายทางมาก ถ้าสำหรับมือใหม่ที่เพิ่งเริ่มทำเว็บไซต์สำหรับธุรกิจ หรือเว็บไซต์ขายของออนไลน์ ควรเริ่มทำการตลาดออนไลน์จากช่องทางไหนดี วันนี้เรามีคำตอบ

ช่องทางการทำ การตลาดออนไลน์

เริ่มด้วยการทำ Search Engine Optimization (SEO) ซึ่งการทำ Search Engine Optimization (SEO) นั้นก็คือการทำให้เว็บไซต์ ติดอยู่ในอันดับต้น ๆ ของ Search Engine เช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น ซึ่งเราจะเน้นที่ Google ยิ่งถ้าทำให้อยู่ในหน้าแรกจะยิ่งดีมาก เพราะช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ ซึ่งการจะทำ SEO ให้ติดอันดับดี ๆ นั้น ต้องเริ่มด้วยการทำให้เว็บไซต์มีคุณภาพ ให้ข้อมูลตรงกับคีย์เวิร์ด(Keywords) ที่คนมักค้นหา ซึ่งการจัดอันดับจะขึ้นกับระบบการจัดอันดับแสดงผลที่เรียกว่า ”Algorithm (อัลกอริทึม)” ซึ่งมีปัจจัยกว่า 100 ปัจจัยในการจัดอันดับ

ให้ความรู้ผ่าน Content การที่ทำให้เว็บไซต์ธุรกิจหรือเว็บไซต์ขายของจะติดตลาดนั้น ขึ้นกับจำนวนคนที่เข้ามาชม การให้ความรู้ผ่านการเขียนคอนเทนต์ลงในเว็บไซต์นั้นช่วยได้มาก เพราะเมื่อเป็นบทความให้ความรู้ที่โดนใจ เรามักจะส่งต่อหรือแชร์คนที่สนใจเหมือนกันในหมู่เพื่อนฝูงและครอบครัว คนรู้จัก ทำให้เพิ่มยอดคนที่สนใจเว็บไซต์เรามากขึ้น และเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้ง่ายขึ้น และการทำ Content สามารถใส่ Keyword ที่เราต้องการได้ เพื่อให้ค้นหาเจอง่ายขึ้น และช่วยผลักดันอันดับSEO ของเว็บไซต์บนหน้าผลการค้นหาของ Google ด้วย ยิงปืนนัดเดียว ได้นกหลายตัวเลยทีเดียว

แชร์ใน Social Media ยุคนี้ แทบจะหาคนที่ไม่เล่น Social Media ได้น้อยเต็มที ไม่ว่าจะเป็น Line, Facebook, IG, Twitter เป็นต้น Social Media จะช่วยคุณได้มาก เพราะมีการแชร์ การโพสต์ ส่งต่อตลอดเวลา ทำให้เว็บไซต์หรือผลิตภัณฑ์สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้ามากขึ้น

การโฆษณา จาก 3 วิธีด้านบน เป็นการกระทำที่ไม่ต้องเสียเงิน แต่วิธีการโฆษณานี้ เหมาะสำหรับคนที่มีเงินทุนสำหรับส่วนนี้ของธุรกิจ หรือคนที่ธุรกิจเริ่มอยู่ตัว ได้กำไรพอสำหรับการลงทุนทำโฆษณา ก็สามารถซื้อโฆษณาไม่ว่าจะเป็น

Google: Google Ad Words

Facebook: Facebook Ads

Line: LINE Broadcast

Youtube: Youtube Video Adsช่องทางการทำ การตลาดออนไลน์

ส่วนมากจะใช้กับการโปรโมทระยะสั้น เช่น ช่วงเทศกาลสำคัญ ปีใหม่ วาเลนไทน์ เป็นต้น เพื่อเป็นการกระตุ้นให้ผู้คนเข้ามายังเว็บไซต์มากขึ้น

เมื่อเราสร้างการรับรู้ (Awareness) ให้กับกลุ่มคนที่สนใจแล้ว เมื่อเกิดการพิจารณาและเลือกซื้อสินค้า ก็จะกลายเป็นลูกค้า เมื่อนั้นก็ต้องมีการดูแลและให้บริการที่ดี เพื่อให้เกิดการซื้อซ้ำหรือการโฆษณาแบบปากต่อปากให้กับธุรกิจต่อไป เราสามารถทำทั้ง 4 ช่องทางไปพร้อม ๆ กันได้เลย เชื่อว่าถ้ามีความพยายามและขยัน ความสำเร็จจะเกิดขึ้นได้แน่นอน

รู้จักการตลาดให้มากขึ้น เทรนด์การตลาดออนไลน์ 2019

รู้จักการตลาดให้มากขึ้น เทรนด์การตลาดออนไลน์ 2019

การตลาดออนไลน์ยุคใหม่จำเป็นจะต้องติดตามแนวโน้มของกระแสแฟชั่นและความสนใจของผู้บริโภคอยู่ตลอดเวลา ผู้ที่มุ่งหวังให้ธุรกิจประสบความสำเร็จให้แบรนด์ติดตลาดในชั้นแนวหน้า จึงต้องมีการศึกษาเทคนิคใหม่ ๆ และพัฒนาวิธีการประชาสัมพันธ์ข้อมูล หรือการเข้าถึงลูกค้ามากขึ้น รวมถึงสร้างบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการได้มากยิ่งขึ้น จะทำให้สามารถแข่งขันทางธุรกิจกับบริษัทคู่แข่งต่าง ๆ ได้อย่างดีในปี 2019

เทรนด์การตลาดออนไลน์ที่ต้องให้ความสำคัญในปี 2019 มีดังนี้

1. การตอบสนองอย่างเร่งด่วน

มีการศึกษาพบว่าคนรุ่นใหม่ชอบใช้บริการจากเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันที่ตอบสนองได้อย่างเร่งด่วน ได้แก่ การสอบถามข้อมูลสินค้าที่สนใจในเว็บไซต์ต่าง ๆ ทาง chatbot การเปรียบเทียบราคาตั๋วเครื่องบินและที่พักผ่านแอปพลิเคชันสุดฮิตอย่าง Skyscanner การสอบถามเส้นทางเพื่อวางแผนการเดินทางผ่าน Google map ฯลฯ หากคุณต้องการที่จะขายสินค้าได้มากขึ้นกับกลุ่มคนรุ่นใหม่ จะต้องสร้างแอปพลิเคชันหรือออกแบบเว็บไซต์ที่มีระบบ AI ในการทำงานเพื่อตอบโจทย์สิ่งเหล่านี้

2. ความดึงดูดใจด้วยสื่อเคลื่อนไหว

การสื่อสารผ่านคลิปวีดีโอไม่ว่าจะบน Facebook และ Instagram อย่างที่เราเห็นการไลฟ์สดหรือการอัดคลิปที่ผ่านการวางโครงเรื่อง ออกแบบการถ่ายทำและตัดต่อมาอย่างดี เป็นเทคนิคที่ช่วยให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคที่อยู่ในวัย 20-35 ปีได้มากยิ่งขึ้น มีการเก็บสถิติทางการตลาดพบว่าหากใน 3 วินาที คลิปวีดีโอหนึ่ง ๆ ไม่สามารถดึงดูดใจได้ จะทำให้กลุ่มลูกค้าเป้าหมายเปลี่ยนไปสนใจข้อมูลจากเว็บไซต์หรือแบรนด์อื่นในทันที จะเห็นได้ว่าการผลิตวีดีโอเพื่อส่งเสริมการขายต้องวางแผนและคิดไอเดียที่แปลกแหวกแนวออกมาอยู่เสมอ

3. การทำ SEO และ SEM

การเลือก keyword สำหรับการทำ SEO (search engine optimization) สำคัญอย่างยิ่งในยุคปัจจุบัน ควรใช้ Long tail niche keyword คือคำค้นหาที่มีความยาวและเฉพาะเจาะจงกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย โดยยึดหลักว่า ใคร อะไร ที่ไหน อย่างไร เช่น เสื้อแฟชั่น ผู้หญิง ท่องเที่ยว เกาหลี ฤดูใบไม้ผลิ 2019 จะทำให้เข้าถึงการสืบค้นของกลุ่มเป้าหมายได้มากยิ่งขึ้น เปอร์เซ็นต์ในการขายได้จะสูงมากขึ้นตามไปด้วยเทรนด์การตลาดออนไลน์ที่ต้องให้ความสำคัญ

ส่วนการทำ SEM (search engine marketing) หรือการซื้อพื้นที่ประชาสัมพันธ์ใน Google ที่จะมีการคิดอัตราค่าบริการตามการคลิกเข้าไปชม ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องทำคู่กับการทำ SEO เพื่อเพิ่มยอดขายและสร้างการจดจำแบรนด์ได้อย่างดียิ่งขึ้นในเวลาอันสั้น

จะเห็นได้ว่า เทรนด์การทำการตลาดออนไลน์ในปี 2019 จำเป็นต้องใช้หลากหลายเทคนิคในการทำให้ประสบความสำเร็จ หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้ทุกท่านนำไปปรับใช้ แก้ไขจุดอ่อน ส่งเสริมธุรกิจของตัวเองได้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้เข้าสู่เป้าหมาย คือ ทำให้ธุรกิจออนไลน์เติบโตได้อย่างก้าวไกลต่อไป

วิธีการตลาดออนไลน์แบบไหนเหมาะกับยุคสมัย

กลยุทธ์การตลาดแบบใดที่เหมาะกับยุคสมัย

ทุกธุรกิจเผชิญการแข่งขันดุเดือด แบรนด์เกิดใหม่เติบโตยากลำบาก แต่การเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีเข้ามาเปลี่ยนพฤติกรรมของผู้บริโภคทำให้ธุรกิจใหม่มีโอกาสแจ้งเกิดด้วยแผนการตลาดออนไลน์ที่มีด้วยกันหลายรูปแบบ ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาหาธุรกิจรวดเร็วและง่ายดายยิ่งขึ้น

มาดูกันว่ามีกลยุทธ์การตลาดแบบใดที่เหมาะกับยุคสมัยปัจจุบันและในทศวรรษหน้า

1.เมื่อพูดถึงกลยุทธ์การตลาดออนไลน์ ดูเหมือน SEO เป็นรูปแบบยอดนิยมตลอดกาล นักการตลาดดิจิทัลยังคงแนะนำว่าไม่มีอะไรสำคัญไปกว่าการทำ SEO ควรทำความเข้าใจวิธีการทำให้เว็บไซต์ติดอันดับและปรับปรุงแผนการตลาดให้ไปได้สวยกับอัลกอริทึมที่แท้จริงของ Google หากต้องการให้ธุรกิจประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว เข้าไปอยู่ในอันดับต้น ๆ ของ Google ได้ควรวางใจให้ผู้เชี่ยวชาญจัดการทำ SEO ให้ในตอนแรกจะดีกว่า หลังจากนั้นเจ้าของธุรกิจควรเรียนรู้พื้นฐานว่ามีปัจจัยอะไรส่งผลลัพธ์ต่อ SEO รวมถึงการใช้ลิงก์ภายนอกหรือ Backlink อย่างปลอดภัย ไม่เสี่ยงทำคอนเทนต์ซ้ำ ๆ และไม่มีคุณภาพออกมา เพราะ Google จะบอกว่าเป็นบทความที่ลอกมาและถูกปรับอันดับแย่ลง เทคนิคต่าง ๆ ที่เคยใช้ตลอดหลายปีที่ผ่านจะใช้ไม่ได้อีกต่อไป ขณะนี้ Google กำลังติดป้ายกำกับว่าไม่ปลอดภัย ทำให้เว็บไซต์ไม่ติดอันดับในเครื่องมือค้นหา จำเป็นต้องเปลี่ยนวิธีการที่ล้าสมัยทั้งหมด

2.การทำการตลาดผ่านเครื่องมือค้นหาบนอินเทอร์เน็ต หรือ SEM เป็นวิธียอดนิยมสำหรับธุรกิจที่ยังใหม่ต่อการตลาดออนไลน์ผ่านเสิร์ชเอ็นจิ้น โดยใช้วิธีการโฆษณาแบบชำระเงิน ก่อนอื่นต้องหาความรู้ก่อนว่ามีกระบวนการทำงานอย่างไร เมื่อเข้าใจแล้วจ้างผู้เชี่ยวชาญช่วยทำในด้านนี้ ทำความเข้าใจกันว่าต้องการโฆษณาแบบข้อความ, รูปภาพ, วิดีโอบน YouTube หรือโฆษณาบนมือถือเพื่อให้เข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่ต้องการโดยตรง ทีมงานมืออาชีพจะติดตามว่าโฆษณาของคุณทำงานได้ดีและมีผลตอบรับมากน้อยอย่างไร มองทางเลือกในการโฆษณาแบบเสียค่าใช้จ่ายหลายรูปแบบ โดยเฉพาะโฆษณาบน Facebook ทำให้มีโอกาสเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่หลากหลายยิ่งขึ้น

3.การตลาดผ่านสื่อสังคมออนไลน์ เป็นช่องทางที่ได้รับความสนใจมากที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าหลังจากได้โพสต์เนื้อหาลงในโซเชียลมีเดียแล้วถูกใจผู้อ่าน จะมีการแบ่งปันข้อมูล กดไลค์ และกดติดตามง่ายและรวดเร็ว ทำให้ต้องเน้นว่าจะทำโฆษณาทางโซเชียลมีเดียอย่างไรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นในปีนี้และทศวรรษหน้า ทุกวันนี้มีเครื่องมือและระบบอัตโนมัติมากมายที่ช่วยตั้งค่าการโพสต์เนื้อหาตามเวลาที่มีคนเปิดอ่านมากที่สุด การจ้างผู้เชี่ยวชาญที่รู้พฤติกรรมของผู้บริโภคเข้ามาจัดการโพสต์จะช่วยให้โฆษณาได้อย่างเป็นธรรมชาติ โดยที่ลูกค้าไม่รู้สึกว่าถูกยัดเยียด เจ้าของธุรกิจจะต้องดูแลเนื้อหาคอนเทนต์บางส่วนเพื่อนำเสนอข้อมูลที่เป็นประโยชน์และน่าสนใจ ไม่ใช่ว่าเน้นการขายอย่างเดียว พยายามอัปเดตบ่อย ๆ เพราะโซเชียลมีเดียเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่งสำหรับการทำธุรกิจในปัจจุบันและอนาคต

4.การตลาดออนไลน์รูปแบบ Content Marketing มีความสำคัญกับการทำเว็บไซต์ให้คนรู้จักมาก เพราะเนื้อหาบทความเป็นส่วนสำคัญในการดึงดูดผู้ชมเป้าหมายให้ติดตามลิงก์จากโซเชียลมีเดียเข้ามาอ่านเพิ่มเติมในเว็บไซต์ทางการ ซึ่งเปิดช่องทางให้ค้นหาสินค้าหรือบริการที่ตรงใจมากขึ้น การเขียนคอนเทนต์จึงต้องน่าอ่านและมีประโยชน์เกี่ยวข้องกันเพื่อทำให้คุ้มค่ากับเวลาที่ติดตามอ่าน ผู้เชี่ยวชาญการตลาดแนะนำให้เน้นแนวทางการเขียนแบบ How to ที่หลายคนชื่นชอบและตอบโจทย์ผู้อ่านได้ดี มีอิทธิพลต่อการตัดสินใจซื้อโดยตรง นอกจากเนื้อหาดีแล้วยังต้องเหมาะกับการโพสต์บนอุปกรณ์มือถือซึ่งจะที่มีอิทธิพลทางการตลาดโดยอัตโนมัติ

วิธีการตลาดออนไลน์แบบไหนเหมาะกับยุคสมัย